Gore-Tex

รองเท้ากันน้ำ ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญ สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า ปีนเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมถึงผู้ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น โดยในอดีต หากอยากสร้างรองเท้าสักคู่ให้สามารถกันน้ำได้ จะต้องใช้หนังวัวเคลือบน้ำมัน ซึ่งพอนำไปใส่ จะรู้สึกอึดอัด ร้อน และมีน้ำหนักเยอะใส่นาน ๆ แล้วเมื่อย แต่ปัจจุบัน การมาถึงของวัสดุที่ชื่อว่า Gore-Tex นั้น ได้เปลี่ยนแปลงวงการรองเท้ากันน้ำ ไปอย่างสิ้นเชิง

ผู้ให้กำเนิด เทคโนโลยี Gore-Tex

Gore-Tex เป็นนวัตกรรมจากบริษัทอเมริกันชื่อว่า W. L. Gore & Associates ซึ่งก่อตั้งในปี 1958 โดย Wilbert L. Gore และลูกชายของเขาที่ชื่อว่า Robert W. Gore โดยในปี 1969 Robert ได้ค้นพบวิธี 

"ขยายตัว" ของพลาสติกชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า PTFE (Polytetrafluoroethylene) จนกลายเป็นแผ่นฟิล์มพรุนขนาดจิ๋ว ที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ 100% แต่ยังระบายไอน้ำได้ ส่งผลให้เทคโนโลยีนี้ถูกตั้งชื่อทางการค้าว่า Gore-Tex โดยเป็นการนำชื่อผู้ก่อตั้ง "Gore" มานวกกับคำว่า "Textile" (สิ่งทอ) ซึ่งสะท้อนวัตถุประสงค์ของการพัฒนาให้เป็นวัสดุสำหรับผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าทางเทคนิค

image galleryimage gallery
Wilbert L. Gore and Robert W. Gore

ก่อนจะมี Gore-Tex คนสมัยก่อนผลิตรองเท้ากันน้ำกันยังไง?

image gallery
M43 Combat Boots

1. หนังเคลือบน้ำมัน (Oiled Leather / Waxed Leather)

หนังวัวฟอกด้วยไขหรือแว็กซ์ธรรมชาติ เช่น mink oil หรือ beeswax เป็นวิธีที่นิยมในรองเท้าเดินป่าและรองเท้าทหารยุคแรก ช่วยกันน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ต้องบำรุงบ่อย และไม่ระบายอากาศ ยกตัวอย่างเช่น รองเท้า US Army M43 Combat Boots ที่ทหารสหรัฐใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2

วัสดุหลัก
  • หนังวัว (Full-grain Cowhide Leather) เป็นวัสดุหลักที่ใช้ผลิต M43 Combat Boots
  • ลักษณะคือ หนังฟอกแบบดิบ (rough-out leather) ซึ่งเป็นหนังกลับ (ด้านที่เป็นผิวหยาบ) อยู่ด้านนอก
  • การเลือกใช้ หนังแบบ rough-out ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการ กันน้ำได้ดีกว่าหนังเรียบ และทำให้รองเท้าทนต่อการขีดข่วนได้มากขึ้น
จุดเด่น
  • หนังหนาและทนทาน – ผลิตมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมสมรภูมิที่โหดร้าย
  • ใช้งานคู่กับ Leggings – รองเท้ารุ่นนี้ถูกออกแบบให้ใช้ร่วมกับ gaiters หรือ leggings (ปลอกขารัด) เพื่อเสริมการกันน้ำและป้องกันเศษดินโคลน
  • ไม่สะท้อนแสง – ช่วยให้ไม่เป็นเป้าในสมรภูมิ

ข้อจำกัด

  • หนักและไม่ระบายอากาศ
image gallery
US Army Type II Rubber Overshoes

2. รองเท้ายาง (Rubber Boots)

ทำจากยางทั้งชิ้น เหมาะกับการลุยโคลน น้ำท่วม หรือทำเกษตร แต่ข้อเสียคือร้อน ไม่ยืดหยุ่น และเท้าเปื่อยง่ายถ้าใส่นานๆ ยกตัวอย่างเช่น รองเท้า Type II Rubber Overshoes ที่ทหารสหรัฐใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นรองเท้าครอบกันน้ำ ที่สวมทับรองเท้าหนังปกติ เช่น Service Shoes หรือ Combat Boots เพื่อเพิ่มการกันน้ำในสภาพโคลนหรือหิมะ

วัสดุหลัก

  • ยางแท้ทั้งชิ้น พร้อมตัวล็อกแบบหัวเข็มขัดโลหะด้านหน้า

จุดเด่น

  • ออกแบบให้สวมง่ายและกันน้ำได้เต็มรูปแบบ 

ข้อจำกัด

  • หนัก ไม่ระบายอากาศ และไม่เหมาะสำหรับการเดินนาน ๆ โดยตรง โดยรองเท้าจะมีเป็นลักษณะเป็น Overshoe (ไม่ได้มีซับในเหมือนรองเท้าปกติ)
image gallery
M-1966 Jungle Boots (Third Pattern)

3. ผ้าไนลอนเคลือบพีวีซี (PVC-coated Nylon)

ใช้วัสดุสังเคราะห์กันน้ำเคลือบบนผ้า เป็นไนลอนเคลือบ PVC กันน้ำได้และแห้งเร็ว ยกตัวอย่างเช่น M-1966 Jungle Boots (Third Pattern) เป็นรองเท้าที่ทหารสหรัฐฯ นำวัสดุ ไนลอนเคลือบ PVC (PVC-coated Nylon) มาใช้งานในสงครามเวียดนาม

วัสดุหลัก

  • ส่วนบนทำจาก ไนลอนผสมผ้าฝ้าย (Cotton/Nylon Blend)
  • เคลือบด้วย PVC กันน้ำบางส่วน เพื่อเพิ่มการทนทานและกันน้ำในสภาพแวดล้อมเปียกชื้น
  • ด้านล่างเป็น หนังแท้ (Full-grain Leather)
  • พื้นรองเท้าแบบ "Panama Sole" สำหรับการยึดเกาะที่ดีในโคลน

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบากว่ารองเท้าหนังล้วน
  • แห้งไว
  • มีรูระบายน้ำด้านข้าง (Drainage Eyelets)

ข้อจำกัด

  • แม้วัสดุไนลอน/ผ้าฝ้ายแม้จะเบาและแห้งเร็ว แต่ก็เสื่อมสภาพเร็วเช่นกันถ้าเจอกับสภาพโหด เช่น โคลน, ความร้อนสูง, หรือการเสียดสีจากกิ่งไม้หนาม
image gallery
U.S. Army Service Shoes Type II

4. การซีลตะเข็บด้วยกาวกันน้ำ

ในยุคก่อนรองเท้าที่เย็บด้วยด้าย จะใช้การเคลือบหรือซีลตะเข็บด้วยกาวยางกันน้ำ ซึ่งกันน้ำได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ มีข้อจำกัดร่วมกันคือ "ไม่ระบายอากาศ" และ "ต้องดูแลรักษา" อย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น รองเท้า U.S. Army Service Shoes Type II ที่ทหารสหรัฐใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2

วัสดุหลัก

  • หนังแท้ (Full-grain leather) หนังวัวคุณภาพสูง

จุดเด่น

  • ดูแลรักษาได้ง่าย เช่น หากทาไขหรือแว็กซ์ จะสามารถเพิ่มคุณสมบัติการกันน้ำได้
  • ใช้ โครงสร้างการเย็บแบบ Goodyear Welt ที่แข็งแรงและทนทาน

ข้อจำกัด

  • เมื่อเจอสภาพอากาศเปียกหรือเดินลุยโคลนนาน ๆ น้ำยังซึมผ่านรอยเย็บหรือรูเชือกรองเท้าได้
  • หากถูกทำให้เปียกซ้ำ ๆ จะ แข็งและแตกได้ง่าย
  • การที่ทหาร ต้องคอยต้องทาไขหรือแว็กซ์อยู่เป็นประจำให้สามารถกันน้ำได้ ก็เป็นเรื่องจุกจิกอยู่เหมือนกัน

Gore-Tex ปฏิวัติรองเท้ากันน้ำแบบเก่า ให้สามารถระบายอากาศได้ด้วย

เมื่อ Gore-Tex เปิดตัวในปี 1969 (และผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงปี 1976) มันคือการ ปฏิวัติแนวคิด “กันน้ำ”เลยก็ว่าได้ เพราะ Gore-Tex เป็นวัสดุแรกๆ ที่สามารถ กันน้ำได้โดยที่ยังระบายอากาศได้ ซึ่งไม่เคยมีนวัตกรรมไหนทำได้ในระดับนี้มาก่อน และเมื่อ Gore-Tex ถูกนำมาใช้ในรองเท้า outdoor และ tactical มันจึงพลิกแนวคิดเดิมทั้งหมด เพราะคุณสมบัติของ Gore-Tex มีเยอะมาก ๆ โดยมีทั้ง

1. กันน้ำได้ 100%
Gore-Tex มีโครงสร้างรูพรุนที่ เล็กกว่าหยดน้ำหลายหมื่นเท่า ทำให้น้ำจากภายนอกไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปได้ แม้ในสภาพฝนตกหนักหรือพื้นที่โคลน

2. ระบายอากาศได้ดี
จุดเด่นสำคัญคือ สามารถระบายไอน้ำจากเหงื่อออกได้ แม้จะกันน้ำ ทำให้เท้าแห้งสบาย ไม่อบชื้น ลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับหรือโรคผิวหนัง

3.  น้ำหนักเบา + เคลื่อนไหวคล่องตัว
รองเท้าที่ใช้ Gore-Tex มักจะมีน้ำหนักเบากว่ารองเท้ากันน้ำแบบเก่า เช่น รองเท้ายางหรือหนังฟอกน้ำมัน ช่วยให้เดินหรือทำกิจกรรมได้อย่างคล่องตัว

4. ลดการดูแลรักษายุ่งยาก
ต่างจากรองเท้าหนังที่ต้องทาไขหรือซีลกันน้ำอยู่เสมอ Gore-Tex กันน้ำในตัว และคงประสิทธิภาพได้ยาวนาน โดยไม่ต้องดูแลพิเศษบ่อยครั้ง

5. รองรับทุกสภาพอากาศ
ใช้ได้ทั้งในฤดูฝน หิมะ หรือลุยน้ำ เพราะ Gore-Tex ปรับสมดุลความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทั้งภารกิจทหาร งานภาคสนาม หรือกิจกรรม Outdoor ส่งผลให้ Gore-Tex กลายเป็นวัสดุมาตรฐานในรองเท้าเดินป่า ปีนเขา และเป็นรองเท้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเลือกใช้อีกด้วย

เมื่อ Salomon เริ่มใช้ Gore-Tex

ช่วงยุค 1990 ตอนนั้น Salomon มองเห็นแล้วว่า เทคโนโลยี Gore-Tex สามารถยกระดับประสิทธิภาพสินค้าของได้ Salomon เริ่มหันมาพัฒนา รองเท้าเดินป่า (Hiking Boots) และ รองเท้า outdoor เพื่อตอบโจทย์ตลาดการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่กำลังเติบโต และเมื่อแบรนด์ประสบความสำเร็จในตลาด outdoor Salomon ก็เริ่มนำ Gore-Tex ไปใช้ในรองเท้าอีกหลายกลุ่ม เช่น Trail Running Shoes (รองเท้าวิ่งเทรล) และ Winter Boots แต่กลุ่มที่ทำให้ salomon เฉิดฉายสุด ๆ ยังไงก็ต้องเป็นกลุ่ม Tactical Boots (อย่าง Salomon Forces) นั่นเอง แล้ว…Salomon Forces รุ่นไหน ที่ได้รับความนิยมในไทยบ้างล่ะ?

10 รุ่น Salomon Forces ที่มี Gore-Tex แถมยังคุ้มค่าและได้รับความนิยมในร้าน Valor tactical

1. Salomon XA Forces GTX [Black] – ฿6,900 

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: ระบบ Quicklace ทำให้รัดเชือกง่ายในเวลาเร่งด่วน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรองเท้าน้ำหนักเบาและคล่องตัวสูง

2. Salomon XA Forces 8 GTX EN [Black] – ฿8,300

  • คุ้มค่า: 8.5/10 | ความนิยม: ★★★★★
  • ข้อดีเพิ่มเติม: แผ่นกันกระแทกเสริมข้อเท้า ช่วยป้องกันข้อเท้าบิดได้ดีเยี่ยม
  • รองรับการใช้งานในพื้นที่โคลนหรือสมรภูมิที่ต้องการการปกป้องสูง

3. Salomon Quest Prime Forces GTX EN [Black] – ฿8,400

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: น้ำหนักเบากว่ารุ่น Quest 4D ทำให้เดินป่าระยะไกลได้สะดวก
  • ผสานการใช้งาน tactical + outdoor อย่างลงตัว

4. Salomon Quest Prime Forces GTX EN [Coyote] – ฿8,400

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: สี Coyote เหมาะกับการพรางตัวในพื้นที่ทะเลทรายหรือแห้งแล้ง
  • เหมือนรุ่น Black แต่ตอบโจทย์สายภารกิจกลางแจ้งในภูมิประเทศพิเศษ

5. Salomon XA PRO FORCES GTX [Black] – ฿6,500

  • คุ้มค่า: 9.5/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: ดีไซน์พัฒนาเพิ่มจากรองเท้าวิ่งเทรลที่ทนทานพิเศษ
  • เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและคล่องตัวสูง

6. Salomon XA Forces Mid Wide GTX EN [Black] – ฿7,200

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: ความกว้างพิเศษช่วยลดการเสียดสีระหว่างเดินระยะไกล
  • สำหรับผู้ที่หน้าเท้ากว้างหรือใส่ถุงเท้าหนา

7. Salomon Quest 4D GTX Forces 2 EN [Black] – ฿8,900

  • คุ้มค่า: 8.5/10 | ความนิยม: ★★★★★
  • ข้อดีเพิ่มเติม: พื้น Energy Cell ช่วยซึมซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม
  • เหมาะสำหรับภูมิประเทศภูเขาหรือเดินทางระยะไกล

8. Salomon X Ultra Forces Mid GTX [Black] – ฿6,800

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: ดีไซน์ดัดแปลงจากรองเท้าเทรลรุ่นท็อป ทำให้ยึดเกาะได้ดีแม้บนพื้นเปียก
  • เหมาะกับ tactical + hiking ในทุกภูมิประเทศ

9. Salomon XA Forces Mid GTX EN [Black] – ฿7,200

  • คุ้มค่า: 9/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: แผ่นกันโคลน (Mud Guard) เสริมรอบรองเท้าช่วยกันโคลนเลอะ
  • เหมาะสำหรับภารกิจที่ต้องเผชิญพื้นที่เปียกและโคลน

10 Salomon Speed Assault 2 GTX [Black] – ฿5,800 

  • คุ้มค่า: 9.5/10 | ความนิยม: ★★★★☆
  • ข้อดีเพิ่มเติม: น้ำหนักเบามาก (เพียง 300g ต่อข้าง) เหมาะสำหรับเคลื่อนที่เร็ว
  • สำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วสูงและระบายอากาศดี

สรุปแนวทางการเลือกซื้อรองเท้า Salomon Forces ที่มี Gore-Tex

หากคุณเน้น ความคุ้มค่า + ความคล่องตัว แนะนำ: Speed Assault 2 GTX, XA PRO FORCES GTX
. ถ้าคุณเน้น ความมั่นคง + การปกป้อง: XA Forces 8 GTX, Quest 4D GTX
. หากคุณต้องการ รองเท้าที่ใช้งานได้รอบด้าน: Quest Prime Forces GTX (Black/Coyote)
*แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะเลือกซื้อแบบไหน ก็อยุ่ที่รูปแบบการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของทุกท่านทั้งนั้นแหละครับ ดั่งคำในตำนาน ที่คนโบราณเคยบอกไว้ว่า “ถูกใจก็จัด จะประหยัด ไปทำไม…”
ดูทั้งหมด
Chest rigDog tag คือEotechGore tex คือGore tex คืออะไรGore-texGore-tex รองเท้าIfak คือOperation red wingPlate carrierSalomon forces gore texSalomon speed assault 2 gtxSalomon tactical bootsSalomon xa forces gtxSeal team 6SurefireTactical gear กันน้ำThe north face gore-tex คือกันน้ำ กันลม ระบายอากาศกางเกง 5.11คุณสมบัติ gore-texชุดกันฝน tacticalถุงมือ mechanix แท้ทหารใช้ gore-texผ้า gore texผ้า gore tex คือผ้า gore tex คืออะไรผ้ากันฝนระดับทหารรองเท้า gore texรองเท้า salomonรองเท้า salomon gore texรองเท้า tacticalรองเท้า tactical ยี่ห้อไหนดีรองเท้ากันน้ำรองเท้าผจญภัยหนังวัวเคลือบน้ำมันอาวุธสงครามอุปกรณ์ outdoor กันฝนเสื้อ gore texเสื้อ tacticalเสื้อ tactical กันฝนเสื้อกันฝน gore-texเสื้อกันฝน tacticalเสื้อกันฝนเดินป่าเสื้อกันฝนเดินป่า tacticalเสื้อกันลม outdoorเสื้อกันลม tacticalเสื้อผ้าเดินป่าเสื้อเกราะกันกระสุน ยี่ห้อไหนดีแว่นตายิงปืน

ทิ้งข้อความไว้

ความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกกลั่นกรองก่อนที่จะเผยแพร่