สัญลักษณ์ " The Thin Blue Line " อาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกัน
ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้รักษากฏหมายมากมาย สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และที่มาของความหมาย สามารถดูได้ที่บทความก่อนหน้านี้ของเรา
The Thin Blue line ที่มา บทบาท และ ความหมายของเส้นสีน้ำเงิน
https://valor-tactical.com/blogs/news/the-thin-blue-line
แต่ในวันนี้เราจะไม่ได้พูดในมุมมองของประวัติศาสตร์และที่มาของมัน
เพราะวันนี้เราจะมาพูดในมุมมองของเจ้าหน้าที่รักษากฏหมายตัวจริง
ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบัน ว่าเพราะอะไร ? สัญลักษณ์นี้ถึงเป็นที่นิยม
มีความเหนียวแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของเหล่าผู้รักษากฏหมายทั้งหลาย
และไม่แน่ ... หลังจากอ่านบทความนี้จนจบ ท่านอาจจะเปลี่ยนมุมมอง
ของสัญลักษณ์นี้ไปตลอดกาลเลยก็เป็นได้
จ่าตำรวจ Stephen Bishop จากกรมตำรวจประจำเมืองแดลลัส ( Dallas )
ได้พูดถึงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับสัญลักษณ์ " The Thin Blue Line "
เอาไว้ว่า " มันคือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเข้าใจและความรู้สึกเคารพรัก
ต่อครอบครัวและมิตรสหายผู้สูญเสียเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน "
เขากล่าวต่อ .. " เมื่อใดก็ตามที่ผมเห็นธง , สติ๊กเกอร์ตามรถ หรือแม้แต่การได้เห็น
สัญลักษณ์นี้ตามสวนหลังบ้านของใครซักคน มันทำให้ผมรู้สึกว่า
ยังมีคนที่เข้าใจความรู้สึกสูญเสียภายในใจของผมและพวกพ้องอยู่เสมอ "
นอกจากนี้หนึ่งในเจ้าหน้าที่ได้ส่งคำพูดหนึ่ง จากในหนัง " End of Watch "
ที่เขาเชื่อว่าเป็นหนึ่งในคำพูดที่อธิบายความเป็น " หน้าที่ของตำรวจ "
และ The Thin Blue Line อย่างชัดเจนที่สุดเอาไว้ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
" เราคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ .. และเรามาที่นี่เพื่อจับกุมคุณ.
นั่นเพราะคุณทำผิดกฏหมาย เราไม่ได้เป็นคนเขียนกฏหมาย
ในบางครั้งเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับมันในบางข้อ แต่อย่างไรก็ตาม
มันเป็นหน้าที่ของเราในการบังคับใช้กฏหมาย ไม่ว่าคุณจะพยายาม
วิงวอน , หว่านล้อม หรือแม้แต่ขอร้อง ไปจนถึงการทำให้ตัวเรา
รู้สึกเห็นใจในการกระทำของคุณมากแค่ไหน. แต่มันก็ไม่มีทาง
ที่คุณจะหยุดผมให้ควบคุมตัวคุณไปยังกรงขังเหล็กสีเทาได้
ถ้าเกิดคุณพยายามจะหนี เราจะวิ่งไล่คุณ. ถ้าคุณโจมตีเรา
เราจะป้องกันตัวกลับไป. และถ้าคุณยิงเรา เราก็จำเป็นต้องยิงกลับไป
ในทางกฏหมายเราไม่สามารถเดินหนีไปจากเหตุการณ์ซึ่งหน้าได้
เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของเรา เราคือผลที่ตามมา
จากสิ่งที่คุณกระทำผิดไว้ เราคือชะตากรรมที่มาพร้อมกับเหรียญตรา
และอาวุธปืนที่พกอยู่กับตัว
ด้านหลังของเหรียญตราที่ติดอยู่บนอก มันก็คือหัวใจของคนคนหนึ่ง
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพวกคุณ , พวกเราเป็นคนธรรมดา เจ็บได้ เลือดออกได้
มีความคิด , มีความรู้สึก มีความรัก และใช่ .. เราก็ถูกฆ่าได้เช่นเดียวกัน
แต่เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง .. เพราะเรามีพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง
ที่ทำหน้าที่และคิดแบบเดียวกับเรา เสียสละเพื่อเรา และเราจะเสียสละ
เพื่อพวกเขาเช่นกัน เราจะช่วยระวังหลังให้กัน เราจะช่วยเหลือกันเสมอ
เพราะเราคือ The Thin Blue Line ผู้พิทักษ์และปกป้องเหยื่อจากผู้ล่า
เราคือผู้ที่ยอมทำเรื่องที่ไม่ดีเพื่อสังคมที่ดีขึ้น เพราะเราคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ "
ซึ่งท่านสามารถดูวีดีโอที่พูดถึงประโยคนี้ได้จากในคลิปนี้เลยครับ
นอกจากนี้เมื่อผู้เขียนได้ทำการพูดคุยกับตำรวจหลายๆท่านที่ได้พบเจอและร่วมงานกัน
ก็ยังมีอีกหลายความเชื่อที่เหนียวแน่นมากมายเกี่ยวกับสัญลักษณ์นี้
" The Thin Blue Line มันไม่มีการแบ่งเพศ แบ่งสี แบ่งชนชั้นใดๆ
มันเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ระหว่างพี่น้องชาวตำรวจที่ต่อสู้กับความชั่วร้าย "
เจ้าหน้าที่อีกท่านหนึ่งได้กล่าวเสริมเอาไว้ว่า
" บนโลกนี้มีทั้งแกะที่เป็นเหยื่อและหมาป่าที่เป็นผู้ล่า
The thin blue line คือผู้ที่อยู่ตรงกลาง ทำหน้าที่เป็นหมาต้อนแกะ
ที่จะปกป้องฝูงแกะจากฝูงหมาป่าที่หิวโหย และดุร้าย "
เจ้าหน้าที่อีกท่านหนึ่งได้พูดเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
" สัญลักษณ์ The Thin Blue Line เปรียบเสมือนกับธงและป้ายสัญลักษณ์
มันเป็นตัวแทนถึงทุกคนที่เสียสละเพื่อปกป้องชีวิตและประเทศด้วยทุกสิ่งที่เขามี "
ในวิถีความเชื่อของ The Thin Blue Line ในสายตาของเจ้าหน้าที่ทุกคน
เขาไม่ได้มองแค่ความเชื่อระหว่างตำรวจด้วยกันเท่านั้น แต่พวกเขาก็แชร์ความรู้สึก
และความเชื่อไปจนถึงความนับถือเหล่านั้น ให้แก่พี่น้องในสายงานอาชีพใกล้เคียง
ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าพวกเขาจะทำอาชีพอะไร
ผ่านการฝึกแบบไหนมา หรือมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ตราบใดที่พวกเขาทำเพื่อ
ความสงบสุขของประชาชน พวกเราคือพี่น้องกัน มันคือสายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็น
แต่รู้สึกได้ด้วยหัวใจ ด้วยความรู้สึกที่พวกเขามีให้แก่กัน
ซึ่งวิถีความเชื่อเหล่านี้ ก็ไม่ต่างกับความเชื่อของเหล่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็น Army Ranger , Green Berets , Navy SEALs , Marine Rider
เมื่อคุณได้เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ คุณจะมีสายสัมพันธ์ลึกๆ
ที่เชื่อมต่อจิตใจของเหล่านักรบเอาไว้ด้วยกัน ว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่มี
ความสามารถพิเศษเช่นเดียวกันและสิ่งที่เหมือนกันแน่นอน
คือพวกเขาจะช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ไหน เวลาไหน
พวกเขาจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ
ทางผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับ John Black อดีตเจ้าหน้าที่
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ Green Berets และเป็นหนึ่งในผู้เขียนบทความ
ประจำเว็ปไซด์ SOFREP ได้กล่าวถึงสายสัมพันธ์ที่เข้มแข็งนี้เอาไว้ว่า
" ผมเชื่อว่าสายสัมพันธ์ระดับพี่น้องสหายร่วมรบ เกิดขึ้นได้แทบจะในทันทีที่
คุณได้พบกับพี่น้องจากหน่วยรบพิเศษทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Green Berets
หรือหน่วยซีล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ฝึกด้วยกัน ไม่ได้สู้ในภารกิจเดียวกัน
แม้แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่เพียงแค่พูดคุยไม่กี่คำ ความรู้สึกมันจะบอกเขาเอง
ทำให้เขาแทบจะแยกแยะและรู้สึกได้ว่าใครที่เป็นพวกเดียวกับพวกเขา
มันเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ แต่พวกเราแทบจะมองออกและแยกแยะผู้คนที่พบเจอ
ออกมาได้เลยว่าใครที่ผ่านประสบการณ์ และมีความเชื่อแบบเดียวกับพวกเรา "
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผู้เขียนมีความรู้สึกเช่นเดียวกับ John Black มันเป็นความรู้สึก
หรือสิ่งที่หล่อหลอมมาจากประสบการณ์ที่อธิบายไม่ได้ มันทำให้พวกเขา
สามารถมองเห็นคนที่เป็นเหมือนเขาได้ คุณสามารถดูออกเลยว่าใครเป็นตำรวจ
หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษแม้ว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ถ้าคุณรู้และเข้าใจถึงจุดสังเกตุหลักๆของพวกเขา
ซึ่งหลักการนี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากความเชื่อในวิถีของ The Thin Blue Line
เลยแม้แต่น้อย ! มันคือสายสัมพันธ์ที่มีเพียงคนที่เข้าใจกันเท่านั้นจะรู้สึกได้
ซึ่งในบางครั้ง มันมาจากการหล่อหลอมผ่านประสบการณ์ ผ่านเรื่องราว
และผ่านอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายคลึงกัน จนทำให้พวกเขามีความรู้สึกเชื่อมต่อกัน
ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่พวกเขาเจอในชีวิตการทำงาน .. การทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน
การที่คุณติดภารกิจจนไม่สามารถรับโทรศัพท์คนรักได้ การที่คุณจะต้อง
บุกเข้าไปในบ้านที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายหรือทะเลาะวิวาทขึ้น
การที่คุณจะต้องเข้าไปเพื่อทำการ CPR ช่วยเหลือชายผู้บาดเจ็บปางตาย
ในขณะที่ภรรยาของเขากรีดร้องอยู่ข้างๆหูของคุณว่า " ได้โปรดช่วยเขาด้วย ! "
หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่ยากจะพบเจอ อย่างเช่นการที่คุณจะต้องดูแล
และนำพาผู้หญิงคนหนึ่งไปที่โรงพยาบาล และได้อยู่ข้างๆเธอในขณะที่เขา
รับรู้ว่าสามีของเธอเพิ่งเสียชีวิตไป หรือแม้แต่การที่คุณจะต้องควบ 2 กะ
ทำงานต่อเนื่องกันทั้งวันโดยไม่ได้หลับพักผ่อน ไปจนถึงการที่คุณจะต้องรับมือ
กับคนที่เสียสติ , เมายา หรือต้องช่วยเหลือคนที่พยายามจะฆ่าตัวตาย
ไปจนถึงการที่คุณจะต้องรับมือกับสายช่วยเหลือแปลกๆ หรือคนที่พยายามโทร
เพื่อแกล้งตำรวจ และพบว่ามันเป็นการแจ้งความเท็จ หรือแม้แต่การที่ต้อง
เข้าไปช่วยเหลือในเหตุการณ์เล็กน้อยมากๆ เช่น พบว่าเป็นเพียงแค่แรคคูน
ที่ทำถังขยะและข้าวของหล่นเกลื่อนกลาด ไม่ใช่โจรขโมยขึ้นบ้าน เป็นต้น
แต่กับผู้คนที่เชื่อในวิถีของ The Thin Blue Line พวกเขาเข้าใจกันแทบจะทันที
ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นใครก็ได้ อาชีพอะไรก็ได้
ขอแค่เป็นคนที่เข้าใจในหน้าที่และความเสียสละที่พวกเขาเหล่าเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงานที่เสียสละเพื่อความสงบสุขของประชาชน
เพียงแค่ติดตราสัญลักษณ์ธงชาติที่มีสีฟ้าพาดตรงกลาง หรือ The Thin Blue Line
คุณก็สามารถส่งกำลังใจไปให้พวกเขาได้ และแน่นอนว่ามันช่วยพวกเขาได้จริงๆ
ในบางครั้งเราอาจจะเห็นสัญลักษณ์ The Thin Blue Line ลากผ่านตราสัญลักษณ์
ของเจ้าหน้าที่ หรือของหน่วยงาน นั่นมักจะเป็นการกล่าวถึง ว่ามีเจ้าหน้าที่ในหน่วย
หรือคนที่อยู่ในภาพนั้นๆ ได้ทำการเสียสละชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่
มากมายที่ถูกทำร้าย , ถูกแทงหรือถูกยิงจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติงาน
การแสดงสัญลักษณ์ The Thin Blue Line ยังช่วยในการแสดงออกถึงกำลังใจ
ต่อสมาชิกครอบครัว มิตรสหาย และเพื่อนร่วมงานในวงการเดียวกัน ว่าพวกเรา
เข้าใจถึงความเสียสละ และแสดงความเคารพต่อสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อสังคม
ถึงแม้ว่าเราจะคนละชนชาติ ต่างภาษา ต่างฐานะ ต่างอาชีพ
แต่ตราบใดที่เรามองเห็นความดีงาม ความเสียสละของพวกเขา
เราสามารถให้กำลังใจพวกเขาได้ผ่านการแสดงสัญลักษณ์เหล่านี้
รวมไปถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ก็สามารถแสดงสัญลักษณ์นี้ เพื่อเป็นกำลังใจ
ให้แก่กันและกันได้เช่นกัน มันคือสายสัมพันธ์เล็กๆ ที่เชื่อมจิตใจของ
คนที่มองเห็นความดีและการเสียสละเพื่อส่วนรวมของพวกเขาได้
และนั่นคือความหมายที่แท้จริงของสัญลักษณ์ The Thin Blue Line
ที่มา : What the Thin Blue Line Really Means to Those Who Serve | SOFREP
ผู้แปล เรียบเรียง : Ronnakrit " Viking " Sripumma
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564