เรือดำน้ำ USS Grenadier จมลงเมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1943
ภายหลังจากที่ถูกโจมตีโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดของจักรวรรดิญี่ปุ่น
ลูกเรือที่เหลือรอดถูกคุมขังอย่างทนทุกข์ทรมานในค่ายเชลยศึก
มากว่า 2 ปี ตามคำให้การจากแหล่งข่าว

ในทะเลอันดำมืดที่บริเวณช่องแคบมะละกา
ประมาณ 90 ไมล์ห่างจากเกาะภูเก็ต ประเทศไทย
ทีมนักประดาน้ำ 4 คน ได้ค้นพบเรือดำน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่ถูกทำให้จมโดยลูกเรือเมื่อ 77 ปี ก่อน โดยปัจจุบันถูกค้นพบว่า
เต็มไปด้วยบรรดาสิ่งมีชีวิตใต้น้ำอาศัยอยู่

ทีมนักประดำ โดยมีคุณเบน เคย์เมนองทซ์ อยู่ด้านขวาสุดของภาพ

ซากของเรือดำน้ำซึ่งถูกเชื่อว่าเป็นเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐ USS Grenadier
ถูกค้นพบล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วโดยนักประดาน้ำ ฌอง ลุค คีวัวร์,
แลนซ์ โฮโรวิตซ์, เบนวาต์ ลาโบคี และ เบน เรย์เมแนนทซ์
ที่ได้ป่าวประกาศเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา


คุณโฮโรวิตซ์ ที่อายุ 36 ปี กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ภูเก็ตว่า
หนึ่งในสมาชิกของทีม คือคุณเบน เรย์เมแนนทซ์ ที่ได้เคยเป็นส่วนหนึ่ง
ในการช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงเมื่อปี ค.ศ. 2018
ได้ทำการดำน้ำเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือนรอบๆ เพื่อทำการศึกษาและระบุเรือดำน้ำ

ภายหลังจากการวัดสัดส่วนและโครงสร้างของชิ้นส่วนหลายๆชิ้นจากเรือดำน้ำ
ซึ่งรวมไปถึงประตูและกว้านถอนสมอเรือของเรือดำน้ำ
และได้มีการนำไปเทียบกับข้อมูลที่ได้มีการบันทึกไว้
ในหอสมุดแห่งชาติและทะเบียนเรือของสหรัฐ
ก็ทำให้พวกเขาแน่ใจว่าซากเรือที่พวกเขาค้นพบ
คือซากของเรือดำน้ำ USS Grenadier

คุณโฮโรวิตซ์ที่เป็นหนึ่งในทีมสำรวจที่ใช้งบกว่า 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ
กล่าวว่า "สภาพมันยังดีเหมือนที่เราคาดคิดไว้"
"ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่ฝันที่จะได้ค้นพบ สำรวจเจอ หรือบังเอิญเห็น
กับอะไรที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
ซึ่งการที่เราเจอซากเรือดำน้ำเป็นอะไรที่ประทับใจเรามากๆ
เรารู้สึกว่ามันมหัศจรรย์จริงๆ"

ภาพของซากเรือดำน้ำที่ถูกบันทึกไว้ได้ด้วยโซนาร์

เรือดำน้ำ USS Grenadier ถูกตั้งชื่อตามปลาทะเลน้ำลึก
ที่มีลำตัวที่ยาวและหางที่ชี้ โดยเรือดำน้ำมีความยาวอยู่ที่ 300 ฟุต
และมีน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 1,475 ตัน ตามที่ได้ระบุไว้ในหน่วยงานบันทึกประวัติเรือนาวี
และสายบัญชาการซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการบันทึก
วิเคราะห์ และเผยแพร่ ประวัติทางทะเลต่างๆของสหรัฐอเมริกา
ตามคำให้การของเหล่านักประดาน้ำ ได้ระบุว่า
เรือดำน้ำลำนี้ถูกค้นพบอยู่ใต้ทะเลที่ความลึก 260 ฟุต ใต้น้ำ
และส่วนหนึ่งของเรือถูกปกคลุมด้วยอวนหาปลา

ขั้นตอนต่อไปของทีมนักประดาน้ำคือการหาวิธียืนยันซากต่อหน่วยงาน
โดยข้อมูลที่ทีมนักประดาน้ำรวบรวม มีทั้งวิดีโอ รูปถ่าย และการวัดส่วนต่างๆของเรือ
โรเบิร์ต เนย์แลนด์ หัวหน้าฝ่ายวัตถุโบราณใต้น้ำของหน่วยงาน
บันทึกประวัติเรือนาวีและสายบัญชาการ กล่าวว่าข้อมูลทั้งหมด
จะถูกนำมาวิเคราะห์อีกครั้งโดยหน่วยงาน ซึ่งกระบวนการนี้มักจะกินเวลาเป็นเดือนๆ

ฝาประตูของเรือดำน้ำที่เปิดอ้าอยู่

โรเบิร์ต เนย์แลนด์ กล่าว่า
" การยืนยันการค้นพบสิ่งใดๆก็ตาม เช่นการค้นพบเรือดำน้ำ USS Grenadier
เป็นกระบวนการที่ถูกให้ความสำคัญโดยกองทัพสหรัฐ
เพราะมันไม่เพียงแต่ให้อำนาจทางกฎหมายในการปกป้องซากเรือ
ตามบัญญัติการปกป้องเรือทางทหารที่จมลงแล้ว บัญญัตินี้ยังทำให้ครอบครัว
ของผู้เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่บนเรือ ได้ทราบถึงชะตากรรม
ของคนที่ตัวเองรักอีกด้วย "

ก่อนที่เรือดำน้ำ USS Grenadier จะพบกับจุดจบ
มันได้ทำการจมเรือไปกว่า 6 ลำ ตามการบันทึกของกองทัพเรือสหรัฐ

กองทัพเรือสหรัฐบันทึกไว้ว่า
ในวันที่ 20 เมษยน ค.ศ. 1943 เรือดำน้ำได้ค้นพบเรือส่งสินค้าสองลำ
และได้ทำการเคลื่อนที่เข้าโจมตี แต่วันต่อมา ในขณะที่เรือดำน้ำ
ลอยอยู่ที่ผิวน้ำเรือดำน้ำได้ถูกค้นพบและได้ถูกโจมตีโดยเครื่องบิน
ของจักรวรรดิญี่ปุ่น ในขณะที่เรือดำน้ำพยายามดำลงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี
ของเครื่องบิน ตัวเรือดำน้ำได้มีความเสียหายจากการระเบิดของระเบิดที่ถูกทิ้ง
โดยเครื่องบินซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำอัปปางลงที่ความลึก 267 ฟุต

นาวาตรี จอห์น เอ ฟิตซ์เจอรัลด์และลูกเรืออีก 5 นาย กล่าวว่า
โดยขณะที่ตัวเรือและประตูของเรือดำน้ำเกิดรอยรั่วอย่างมาก
ได้มีไฟไหม้เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความโกลาหลภายในเรือมากกว่าเดิม

จนเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 22 เมษายน ได้มีการค้นพบเรือของญี่ปุ่นสองลำ
โรเบิร์ต ดับบลิว พาล์มเมอร์ ซึ่งเป็นลูกเรือของ USS Grenadier
เขียนไว้ในหนังสือที่เขาเขียนที่ชื่อ The Silent Service in World War II ว่า
กะลาสีเรือทุกนายได้ใช้อาวุธหลายประเภท ทั้งปืนขนาด 20 มม. ปืนไรเฟิล ปืนพก
และปืนกลมือ Tommy ในการยิงไปที่เครื่องบิน ซึ่งในที่สุดก็ได้ทิ้งระเบิดลงไม่ใกล้ไม่ไกล

เส้นทางการเดินเรือของ USS Grenadier
ที่เดินทางออกจากออสเตรเลียในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ.1943
และจมลงในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1943 ที่ช่องแคบมะละกา


คุณปาล์มเมอร์กล่าวว่า
ก่อนที่จะมีการสละเรือดำน้ำ ลูกเรือได้ทุบทำลายเครื่องเข้ารหัสลับด้วยค้อน
และได้มีการทำลายคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลตอร์ปิโดและเครื่องวิทยุทิ้งโดยลูกเรือ
เอกสารที่เป็นความลับและสำคัญทุกฉบับได้ถูกใส่ถุงถ่วงลงทะเล

กะลาสีเรือกว่า 76 ชีวิต มีชีวิตรอดจากการจมของเรือดำน้ำ
แต่พวกเขาได้เผชิญอนาคตอันมืดมน

คุณปาล์มเมอร์ย้อนความว่า
ภายหลังจากที่กัปตันเรือมีคำสั่งให้กะลาสีเรือทุกนายกระโดดลงน้ำเอาชีวิตรอด
ทหารเรือทุกนายได้ถูกจับขึ้นมาบนเรือสินค้าติดอาวุธของจักรวรรดิญี่ปุ่น
พวกเขาถูกจับส่งไปยังโรงเรียนคาธอลิคในปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งพวกเขาถูกทรมานอยู่ที่นั้น

คุณปาล์มเมอร์เขียนว่า
"พวกเราทั้งถูกซ้อม ถูกไฟแผดเผา ถูกหักนิ้วด้วยไม้ไผ่หรือดินสอ
จากทหารญี่ปุ่นที่ทรมานพวกเรา ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก"

ลูกเรือที่เป็นเชลยศึกถูกบังคับให้นั่งหรือยืนในตำแหน่งเดิมอยู่ตลอดเวลา
"หากใครก็ตามไม่สามารถทำตามคำสั่งของทหารญี่ปุ่นได้
ก็จะถูกฟาดด้วยพานท้ายปืน เตะ ต่อยที่หน้า หรือถูกจิ้มด้วยดาบปลายปืน"

ผู้คุมขังชาวญี่ปุ่นยังใช้กลยุทธ์เช่น
การดันคมมีดของมีดพกให้ทะลุนิ้วก้อยของลูกเรือ
เพื่อบังคับให้พวกเขาพูดเกี่ยวกับเรือดำน้ำของพวกเขา

"นี่คือจุดเริ่มต้นการทรมานของพวกเรากว่า 28 เดือนครึ่ง
ทุกการทรมานไม่มีความแตกต่างสำหรับทหารชั้นประทวนและทหารชั้นสัญญาบัตร"
มีลูกเรือของ USS Grenadier เสียชีวิตไป 4 นาย ระหว่างถูกคุมขัง

คุณโฮโรวิตซ์กล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า
"มันน่าเชื่อเหลือเกินที่มีครอบครัวของผู้รอดชีวิตมากมายที่ติดต่อมาหาทีมเรา
ภายหลังจากการประกาศการค้นพบของเรือ USS Grenadier"
"และมันทำให้พวกเขาวางใจกับการจากไปของเรือได้เสียที"

ซากของเรือดำน้ำที่มีปะการังเกาะอยู่มากมาย

คุณโฮโรวิตซ์กล่าวว่า
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับซากเรือของ USS Grenadier นั้นยังไม่มีใครรู้
ตอนนี้ซากเรือนั้นยังเป็นสมบัติของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอยู่

"ไม่ว่าพวกเขาจะทำการอนุรักษ์ซากเรือดำน้ำไว้
จะพยายามเก็บกู้ซากเรือดำน้ำขึ้นมาหรือจะเจาะซากเรือดำน้ำเข้าไปมากขึ้น
เพื่อเก็บกู้วัตถุโบราณ ทุกการตัดสินใจขึ้นอยู่กับพวกเขา"

----------------------------------------------------------------------

ถึงกับอึ้ง ! เรือดำน้ำที่หายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกค้นพบในประเทศไทย

เขียนโดย Derrick Bryson Taylor เมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2020
แปลโดย เทอดพงษ์ ฉายะรถี เมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2020
เรียบเรียงโดย รณกฤต ศรีพุมมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2020

ที่มาของข่าว
https://www.nytimes.com/2020/09/19/us/uss-grenadier-found.html

https://www.dailymail.co.uk/news/article-8737945/Divers-SE-Asia-US-submarine-lost-WWII.html

Leave a comment

All comments are moderated before being published