เขียนโดย เทอดพงษ์ ฉายะรถี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563
เรียบเรียงโดย รณกฤต ศรีพุมมา เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2563
ในแวดวงสินค้าประเภท Tactical และ Outdoor นั้น
คุณสมบัติการกันน้ำและการระบายอากาศของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะกิจกรรมที่ผู้สวมใส่ใช้งานจะต้องเผชิญนั้นมีหลากหลาย
ตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่จะต้องเจอ
อาจจะเปียก อาจจะแห้ง อาจจะร้อน หรืออาจจะหนาว
ดังนั้นการที่สินค้ามีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำและระบายอากาศได้ดี
ก็จะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมเป็นไปได้ง่ายขึ้น
และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานมากได้ดี
สินค้าในหมวดหมู่ Tactical และ Outdoor
จึงมักจะมีการโฆษณาและคิดค้นเทคโนโลยีที่จะสามารถกันน้ำได้
และมอบการระบายอากาศที่ดีให้แก่ตัวสินค้า
ซึ่งเทคโนโลยีที่เราเห็นกันบ่อยว่าสินค้ามักจะนำมาใส่อยู่ในผลิตภัณฑ์
คือเทคโนโลยี Gore-Tex แต่เราจะเห็นว่า สินค้าบางรุ่น ถึงแม้จะเป็นรุ่นเดียวกัน
แต่ชิ้นนึงมีป้าย Gore-Tex ติดอยู่ที่ตัวสินค้า และอีกชิ้นนึงไม่มีป้ายติด
อย่างเช่นรองเท้า Salomon XA Forces ที่มีรองเท้าทั้งแบบมี GTX และไม่มี GTX
แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น?
ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Gore-Tex
และ มาวิเคราะห์กันว่า สินค้าที่มี Gore-Tex หรือไม่มี Gore Tex
แบบไหนจะตอบโจทย์คุณได้มากกว่ากัน?
Gore-Tex คืออะไร ?
เทคโนโลยี Gore-Tex ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกโดย Bob Gore
ในปี 1969 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมันเกิดจากความบังเอิญที่ Bob ได้ทดลองเอา
โพลิเตตระฟลูออโรเอททีลีน (PTFE) หรือ “เทฟล่อน”
มาผ่านความร้อนแล้วยืดด้วยความเร็ว ทำให้โครงสร้างของ PTFE นั้นเปลี่ยนไป
เทคโนโลยี GORE-TEX จะใช้วัสดุผืนผ้าที่มีโครงสร้างเฉพาะตัว
ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผ้าซับในประสิทธิภาพสูงและเนื้อผ้าที่มีความทนทานดีเยี่ยม
โดยผ้าชั้นแรกนี้จะได้รับการเคลือบด้วยสารโพลิเมอร์กันน้ำความทนทานสูง
(Durable Water Repellent)
ซึ่งจะทำหน้าที่กรองน้ำออก และ ในชั้นที่สองจะมี GORE-TEX MEMBRANE
ซึ่งใน 1 ตารางนิ้วของ GORE-TEX MEMBRANE จะมีช่องอยู่ด้วย 9 พันล้านช่อง
และในแต่ละช่องนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าหยดน้ำ 20,000 เท่า
ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่น้ำจะซึมผ่าน GORE-TEX MEMBRANE ไปได้
ในขณะที่ช่องแต่ละช่องบนวัสดุผืนผ้า GORE-TEX MEMBRANE
มีขนาดเล็กกว่าหยดน้ำ แต่ช่องที่กล่าวถึง ก็ยังมีขนาดใหญ่กว่า
โมเลกุลของไอน้ำถึง 700 เท่า ซึ่งนี่คือคุณสมบัติ
ที่ทำให้วัสดุผืนผ้า GORE-TEX ยังสามารถระบายไอเหงื่อ
ออกจากร่างกายได้เพื่อให้คุณยังคงความแห้งไว้ได้
แล้วสินค้าที่ซื้อ ควรมี Gore-Tex หรือไม่มี ?
พูดกันตามตรงว่า ต้องแล้วแต่การเลือกของผู้ใช้งาน
เพราะผู้ใช้งานแต่ละคนต่างมีความชอบและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน
แต่คุณสมบัติที่แตกต่างกันระหว่างสินค้าที่มีและไม่มี GORE-TEX
ที่ควรพิจารณาหากเลือกซื้อมีดังนี้โดยอ้างอิงจาก รองเท้า Salomon XA Forces
รองเท้าที่มี GORE-TEX กันน้ำได้ดีกว่ารองเท้าที่ไม่มี
แน่นอนว่าเพราะเทคโนโลยี GORE-TEX ถูกออกแบบมา
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สามารถกันน้ำได้
ดังนั้น รองเท้าคู่ที่มี GORE-TEX จึงสามารถกันน้ำเข้าได้ดีกว่า
รองเท้าที่มี GORE-TEX จะมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย
เนื่องจากรองเท้าจะมีการตัดเย็บเพิ่มวัสดุลงไปบนรองเท้ามากขึ้น
ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา โดยรองเท้า Salomon XA FORCES MID EN
จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 435 กรัม ในขณะที่รองเท้า Salomon XA FORCES MID GTX EN
นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 475 กรัม เพิ่มมาข้างละ 40 กรัมเลยทีเดียว
ดังนั้นหากผู้สวมใส่ต้องการรองเท้าที่มีความคล่องตัว น้ำหนักเบา
ก็ต้องเลือกรองเท้าคู่ที่ไม่มี GORE-TEX เพราะรองเท้ามีน้ำหนักเบากว่านั้นเอง
รองเท้าที่มี GORE-TEX ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่ารองเท้าที่ไม่มี
เพราะการใช้เทคโนโลยี GORE-TEX ที่โฆษณาว่ามีช่องขนาดเล็กกว่าหยดน้ำ
เพื่อป้องกันน้ำเข้า และยังมีช่องเล็กแต่ยังใหญ่พอ
สำหรับสามารถระบายไอเหงื่อออกจากเท้าได้นั้น
กลายเป็นว่าไปชะลอการระบายไอเหงื่อและลดการไหลเวียนของอากาศลง
ทำให้รองเท้าที่มี GORE-TEX กันน้ำได้เยี่ยมแตะระบายอากาสได้ไม่ดีเท่า
เพราะฉะนั้น สุดท้ายนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้สวมใส่
ว่ากิจกรรมหรือสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวันเป็นแบบไหน
เพื่อให้สามารถเลือกรองเท้าได้อย่างตอบโจทย์ต่อการใช้งาน
หากเป็นคนเท้าเหงื่อออกง่าย ไม่อยากให้รองเท้าเหม็น
หรือมีกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับน้ำบ่อยครั้ง
ก็ต้องเลือก Salomon XA FORCES MID EN ที่มีการระบายอากาศที่ดีกว่า
ถึงแม้รองเท้าจะเปียกได้ แต่ก็แห้งไวเช่นเดียวกัน ไม่ทำให้น้ำขังภายในรองเท้า
แต่หากเป็นคนที่ต้องการรักษาความแห้งของเท้า
เผชิญกับน้ำเพียงครั้งคราวก็ต้องเลือก
Salomon XA FORCES MID GTX EN
ที่มีเทคโนโลยี GORE-TEX เพื่อป้องกันการมีน้ำเข้ารองเท้าไว้ได้อย่างมั่นใจ
