ข้อสงสัย "แถบสะท้อนแสง สีแดง-ขาว" ข้างสไลด์ปืนเจ้าหน้าที่อารักขาในรัฐสภา Valor Tactical
หลังจากเหตุการณ์บุกปิดล้อม ตึกรัฐสภาในอเมริกา ในวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา
จากกลุ่มก่อความไม่สงบผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดลนัลด์ ทรัมป์
ที่เพิ่งเสียเก้าอี้จากการแพ้เลือกตั้งต่อ โจไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ

ภาพส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ที่ต้องสายตาประชาชนจากข่าวหลายสำนัก
เช่นภาพตำรวจนอกเครื่องแบบ หรือ U.S Secret service
หรือที่รู้จักกันในภาพของชุดอารักขาประธานาธิบดี
จริงแท้อย่างไร ใครเป็นใครนั้น ยังไม่มีสำนักข่าวใดเปิดเผยตัวตนชุดอารักขาอย่างแน่ชัด

แต่ประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาเล่าให้ฟัง จากการสังเกตจากภาพเหตุการณ์
คือปืนพก Glock หลายกระบอกที่ ทีมอารักขาใช้งานนั้น
มีแถบสะท้อนแสง สีแดง-ขาว ติดอยู่ที่ด้านข้างของสไลด์ปืน

การสันนิษฐานเบื้องต้นเผยว่า แถบสะท้อนแสง สีแดง-ขาว มีไว้เพื่อป้องกัน
การสับสนหรือเจ้าหน้าที่ติดสินใจเหนี่ยวไกเข้าใส่ฝ่ายตนเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ชุลมุน เครื่องแบบที่ปะปนกัน
หรือมีผู้ก่อความไม่สงบติดอาวุธมากกว่า 1 คนขึ้นไป

ในทางเดียวกัน สื่อได้ข้อมูลจาก โทเมอร์ อิสราอิล (Tomer Israeli)
ผู้บังคับการรักษาความปลอดภัยของชุดอารักขาของอิสราเอล (Israeli Secret Service)
ผู้ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตชุดรักษาความปลอดภัยในสถานทูตอิสราเอลใน กรุงวอชิงตัน
ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานในสหรัฐมากมาย
ให้เป็นครูฝึกชุดอารักขา ทหาร ตำรวจมากมายใน เวอร์จิเนีย

โทเมอร์เล่าว่า ผมไม่ทราบความหมายที่แน่ชัดในเรื่องของสีที่กำกับ
แต่ผมเชื่อว่าทางชุดอารักขาประธานาธิบดีมีแนวทางปฎิบัติที่คล้ายกัน
ซึ่งของเรา ซึ่งชุดอารักขาของอิสราเอล มีการติดแถบสีเป็นสีเหลือง
ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วหากต้องลงมือเหนี่ยวไก

จากภาพ เราจะเห็นปืน Glock ที่มีแถบสะท้อนแสง สีแดง-ขาว อย่างน้อย 2 กระบอก
หากแต่ว่ายังมีปืนพกของเจ้าหน้าที่บางคนนั้น ไม่ได้มีแถบสีกำกับไว้ ปะปนอยู่ด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงอาจตีความไปได้ว่า อาจมีเจ้าหน้าจากหน่วยงานอื่น
เข้าร่วมประชุมหรือให้การอารักขาอยู่ด้วย
และในห้วงเวลานี้สื่อหลายสำนักในอเมริกายังขอเข้าไปทำข่าว
และหาข้อเท็จจริงแก่ประชาชน

และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความวุ่นวายและชุลมุน
จากบุคคลไม่ทราบฝ่ายและเจตนาจำนวนมาก
จึงทำให้หลายหน่วยงานท้องถิ่นโดยรอบวอชิงตัน ส่งกำลังเข้าช่วยรับมือสถานการณ์
รวมทั้ง ทหารเหล่ารักษาการณ์ในประเทศ (U.S. National Guard)

แต่ความร่วมมือกันจากหลายๆหน่วยงาน โดยเฉพาะจากเหล่าทางทหาร
ยิ่งทำให้เเกิดความสับสน ยุ่งเหยิงมากเข้าไปอีกขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ให้การว่า
ในกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสวมชุดเสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องแต่งกายที่มีลายพราง
แบบเดียวกับทหารถึงแม้จะไม่ตรงเป้ะตามระเบียบ
แต่นั้นก็ทำให้สถานการณ์ยิ่งยากขึ้นไปอีกไม่น้อยเลยทีเดียว
 

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์นี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการความสับสนวุ่นวาย
และน่าเสียใจเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ที่บีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงยับยั้ง
ผู้บุกรุกหญิง 1 คนและเสียชีวิตในที่สุด
ภายหลังตรวจสอบพบนามว่า แอชลี แบ็บบิต (Ashli Babbitt)
ผู้ที่บุกเข้าถึงรัฐสภาชั้นในได้สำเร็จ เธอเป็นอดีตทหารผ่านศึกในสมรภูมิที่อัฟกานิสถาน 
ผู้ให้ความสนับสนุนนโยบายของทรัมป์

และไม่มีข้อยกเว้นเคสการเสียชีวิตของเธออยู่ภายใต้การพิจารณาคดีและสืบลำดับการ
ของเจ้าหน้าผู้ยับยั้งลั่นไกเข้าใส่เธอ

สตีเวน ซันด์ ผู้บังคับการตำรวจรัฐสภา
ให้การสื่อในวันที่ 7 มกราคม หลังจากเหตุการณ์ปิดล้อม
ให้การว่า "ผู้ก่อความไม่สงบนั้นเอาจริง และมุ่งมั่นที่จะเข้าทำลาย
สร้างความเสียหายแก่บุคคลทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง
พวกเขาเข้าทุบตีเจ้าหน้าที่ด้วยท่อเหล็ก สาดกรดระคายเคืองใส่เจ้าหน้าที่
บางคนถึงกับเปิดเผยเล็งอาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่"

ซันด์ ยังให้การยืนยันอีกว่า มีการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยได้หลายชิ้นรอบอาคารรัฐสภา
ลักษณะเป็นท่อเหล็กปิดฝาเกลียวหัวท้าย พ่วงอุปกรณ์สายไฟ
คาดเดาว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง
ทางรัฐสภาส่งต่อให้ FBI ตรวจสอบและสืบต่อไป
  
เบื้องต้นจากภาพวงจรปิดสามารถให้เบาะแสยืนยันบุคคล
ระบุรูปลักษณ์ อุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย ของมือวางระเบิดได้แล้ว
และทาง FBI ได้ออกประกาศจับพร้อมเงินรางวัลอีกด้วย

จากเหตุการณ์นี้ สหรัฐอเมริกา ยังตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดอีก 8 วัน
ก่อนที่ว่าที่ ประธานาธิบดีคนใหม่ โจ ไบเดน จะเข้ารับหน้าที่ ต่อในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2021


ที่มา : https://www.thedrive.com/the-war-zone/38590/why-plainclothes-police-had-striped-reflective-tape-on-their-glocks-during-the-capitol-siege?fbclid=IwAR17OiF4hkYUSjBVY6mhUh5sPJDFVQhg1h0xMiJSoxaROIkJyLka8JnHico

บทความ : Why Plainclothes Police Had Striped Reflective Tape On Their Glocks During The Capitol Siege

ผู้เขียนข่าวต้นฉบับ : JOSEPH TREVITHICK และ TYLER ROGOWAY

ผู้แปล เรียบเรียง : ธีธัช รินชัย เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

ทิ้งข้อความไว้

ความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกกลั่นกรองก่อนที่จะเผยแพร่