โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ (Joseph Goebbels)สมาชิกพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมันและรัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นมันสมองในการทำสงครามข่าวสารของฝ่ายเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ - Joseph Goebbels
โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ได้ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและภาพลักษณ์ที่ดีของฮิตเลอร์, กองทัพและพรรคของเขา ไม่ว่าจะเป็นบทพูดและแนวทางการปราศรัยต่างๆไปจนถึงการผลิตสื่อต่างๆสำหรับการใช้โฆษณาชวนเชื่อ แต่รู้หรือไม่ โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์มีหลักการในการสร้างโฆษณาชวนเชื่อตามแบบของเขาถึง 19 หลักการด้วยกัน
เกิบเบิลส์ขณะกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชน
โดยหลักการเหล่านี้ยังสามารถนำมาปรับใช้ในสงครามจิตวิทยาในยุคปัจจุบันได้อีกด้วย เรามาดูกันว่าใน 19 หลักการของเขามีอะไรบ้าง
- นักการโฆษณาชวนเชื่อต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆและความคิดเห็นของสาธารณะ
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องถูกกำกับดูแลวางแผนและออกคำสั่งโดยเพียงคนเดียวเท่านั้น
- ในการวางแผนกระทำการใดๆก็ตามแต่ ต้องคำนึงถึงผลพวงจากการทำโฆษณาชวนเชื่อนั้นด้วย
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องส่งผลต่อข้าศึกในเรื่องของทั้งนโยบายและการปฏิบัติงาน
- ข้อมูลที่ไม่อยู่ในชั้นความลับและข้อมูลการปฏิบัติการต่างๆต้องสามารถเข้าถึงได้เพื่อนำมาใช้ในการรณรงค์การทำโฆษณาชวนเชื่อ
- เพื่อให้(โฆษณาชวนเชื่อ)เป็นที่รับรู้, โฆษณาชวนเชื่อจะต้องก่อให้เกิดความสนใจแก่ผู้รับสารและจะต้องถ่ายทอดผ่านสื่อที่ผู้รับสารเลือกรับ (สิ่งพิมพ์, วิทยุ เป็นต้น ตามยุคสมัยนั้นๆ)
- “ความน่าเชื่อถือ” จะเป็นตัวชี้วัดเดียวว่าผลลัพธ์ของโฆษณาชวนเชื่อที่ออกมานั้นควรจะเป็น “จริง” หรือ “เท็จ” (ในมุมมองของผู้รับสาร)
- จุดมุ่งหมาย, เนื้อหาและประสิทธิภาพในโฆษณาชวนเชื่อของข้าศึก; ประสิทธิภาพและการแพร่กระจายรวมไปถึงลักษณะของการรณรงค์โฆษณาชวนเชื่อที่กระทำอยู่นั้นจะเป็นตัวชี้วัดว่าโฆษณาชวนเชื่อของข้าศึกควรจะถูก “เพิกเฉย” หรือ “ตอบโต้”
- ความน่าเชื่อถือ, ข้อมูลและผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ของการสื่อสารจะเป็นตัวชี้วัดว่า “เนื้อหา” ที่นำมาใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อควรถูกเซนเซอร์ด้วยหรือไม่
- “เนื้อหา” โฆษณาชวนเชื่อของข้าศึกสามารถนำมาใช้เพื่อลดทอนศักดิ์ศรีของข้าศึกเองได้หรือใช้สนับสนุนการโฆษณาชวนเชื่อฝ่ายตัวเองเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้
- “ดำ ดีกว่า ขาว” การโฆษณาชวนเชื่อดำจะต้องถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อ สารของโฆษณาชวนเชื่อนั้นมีความน่าเชื่อถือลงหรือให้ผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดหวังไว้ภายหลักที่ถูกนำเสนอออกไป
- ผู้นำที่มีลักษณะมีศักดิ์ศรี (ความน่าเชื่อถือ/เลื่อมใส) อาจสามารถนำมาใช้เป็นเนื้อหาในการโฆษณาชวนเชื่อได้
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องมีการกำหนดเวลาอย่างระมัดระวัง
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องระบุเหตุการณ์และบุคคลพร้อมกับสโลแกนหรือคำคมที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
- โฆษณาชวนเชื่อที่ถ่ายทอดไปถึงผู้รับสารทางบ้านจะต้องไม่สร้างความหวังผิดๆที่อาจถูกทำลายลงด้วยเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องก่อให้เกิดความวิตกกังวลในปริมาณที่เหมาะสม
- โฆษณาชวนเชื่อที่ถ่ายทอดไปถึงผู้รับสารทางบ้านจะต้องสามารถลดผลกระทบจากความหงุดหงิดได้
- โฆษณาชวนเชื่อจะต้องก่อให้เกิดความก้าวร้าวต่อเป้าหมายเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง
- โฆษณาชวนเชื่อไม่สามารถส่งผลตอบโต้ได้ในทันที หากแต่จะสามารถส่งผลในรูปแบบอื่นหรือก่อให้เกิดเบี่ยงเบนความสนใจหรือทั้งสองอย่าง