อุปกรณ์ลดเสียงรบกวน ชนิด Ear Plug

ภัยเงียบที่ทำลายประสาทการได้ยินของมนุษย์คือเสียงที่ดังเกินไป หนึ่งในอุปกรณ์ป้องกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดเสียงรบกวน โดยตรง นั่นคือ Ear Plug และเมื่อพูดถึง Ear Plug หรือที่เรียกกันว่า อุปกรณ์ลดเสียงแบบอุดหู หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่ฟองน้ำเสียบหูธรรมดา

Ear Plug คืออะไร?

Ear Plug คือ อุปกรณ์ลดเสียง ที่ทำหน้าที่ป้องกันเสียงรบกวนเข้าสู่หูของเราโดยตรง ช่วยลดความดังของเสียงที่เป็นอันตรายต่อการได้ยิน

เบื้องหลังของ Ear Plug นั้นมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คนตั้งแต่สมัยโบราณ เริ่มต้นที่ก่อนคริสต์ศักราช ในยุคโรมัน และกรีกโบราณ มนุษย์รู้จักการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ขี้ผึ้ง ผ้า หรือขนสัตว์ มาปั้นอุดหู เพื่อป้องกันเสียงดังจากสนามรบ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงในงานเฉลิมฉลองที่เสียงดัง ไปจนถึงในยุคกลาง ทหารและกะลาสีเรือบางกลุ่มก็ใช้เทคนิคคล้ายกันนี้ โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับเสียงปืนใหญ่ หรือระเบิดที่ทำลายการได้ยิน

ประวัติความเป็นมาของ Ear Plug

ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 16 ถึง 17 ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เป็นช่วงเวลาที่สังคมยุโรปได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งก่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว พวกทหารมีการใช้ เศษผ้าเปียกน้ำมัน หรือ ขนสัตว์ อุดหูเพื่อบรรเทา เสียง และแรงระเบิดจากปืนใหญ่ ไปจนถึงช่วง สงครามโลกครั้งที่ 1 (1914-1918) ทหารสหรัฐฯ เริ่มเกิดการสูญเสียการได้ยินจากสนามรบเป็นครั้งแรก จึงมีความพยายามที่จะใช้วัสดุ DIY อุดหู แบบแต่เดิมที่ในสมัยโบราณใช้ แต่ก็ยังไม่มีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

จนเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939-1945) เป็นยุคแรกที่ กองทัพสหรัฐฯ เริ่มพัฒนา Ear Plug จากโฟม และยางธรรมชาติ เพื่อลดอัตราการสูญเสียการได้ยิน ในหมู่ทหารที่ประสบปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะหน่วยปืนใหญ่ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ต้องเผชิญกับเสียงปืนกล ระเบิด และเครื่องบินรบระดับ 120 - 150 เดซิเบลเป็นประจำ เวลานั้น สถิติการสูญเสียการได้ยินกลายเป็นหนึ่งในปัญหาทางการแพทย์ที่ถูกบันทึกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สงคราม จึงมีการระดมทีมแพทย์ทหาร และวิศวกรมาร่วมกันคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันหูที่ผลิตได้จำนวนมาก พกพาง่าย และใช้ได้ทันทีในสนามรบ

กองทัพสหรัฐฯ มีการแจกจ่าย Ear Plug รุ่นแรกแบบอุตสาหกรรมแก่ทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในแนวหน้า เช่นในสงครามยุโรป และแปซิฟิก Ear Plug เหล่านี้ได้ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากแต่เดิมที่เป็นวัสดุธรรมชาติ ได้เปลี่ยนมาใช้ Polyurethane Foam แบบพิเศษที่มีคุณสมบัติขยายตัวได้ในช่องหู และลดเสียงรบกวนในระดับที่ทหารสามารถยังคงฟังคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสารได้ ช่วงเวลานั้น Ear Plug จึงถูกบรรจุเป็น อุปกรณ์ป้องกันหู มาตรฐานของกองทัพสหรัฐฯ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ต่อมาในช่วงสงครามเวียดนาม (1960 - 1975) การแพทย์ทหารสหรัฐฯ มีการพัฒนา Ear Plug ให้มีรูปทรง Contour เข้ากับหูมากยิ่งขึ้น โดยการใช้ยางสังเคราะห์ และโฟมนุ่มเพื่อความสบายหู Ear Plug ได้ ถูกนำมาใช้ในหน่วยรบพิเศษอย่าง SWAT SEAL และ EOD อย่างแพร่หลาย

แต่เมื่อเวลาผ่านไปยุคอุตสาหกรรม (1980 - 2000) หลังสงครามเวียดนาม สิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกนั้นไม่ใช่แค่ภูมิรัฐศาสตร์ แต่คือความตระหนักถึงอันตรายของเสียงที่ดังในพื้นที่พลเรือน และอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ในช่วงยุค 1980 - 2000 นั้น อุตสาหกรรมทั่วโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด เช่น โรงงานผลิตเครื่องจักร รถยนต์ เหมืองแร่ และโลหะ ไปจนถึงอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซ ยิ่งไปกว่านั้นอุตสาหกรรมอากาศยาน สนามบิน และขนส่งมวลชน โดยเฉพาะเสียงในโรงงาน พื้นที่เหล่านี้มักสูงถึง 90 - 120 dB ซึ่งเกินกว่าระดับปลอดภัยต่อหูคนปกติ องค์กรอย่าง OSHA (Occupational Safety and Health Administration) ในสหรัฐฯ ได้เริ่มออกกฎหมายควบคุม และกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยด้านเสียงอย่างเข้มงวด Ear Plug จึงกลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับพนักงานในภาคอุตสาหกรรมแทบทุกประเทศ

ประเภทของ Ear Plug 

ปัจจุบันการพัฒนา Foam Ear Plug แบบ Polyurethane Foam รุ่นใหม่ที่นุ่มขึ้น ลดเสียงได้สูงขึ้น ราคาถูก และผลิตได้จำนวนมาก มีการคิดค้น Reusable Ear Plug แบบยางซิลิโคน ที่สามารถล้าง และใช้ซ้ำ รวมถึงยังลดค่าใช้จ่ายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีการออกแบบ Ear Plug ในรูปแบบที่มีสาย (Corded) และสายแบบคาดคอ (Band) เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องถอดใส่บ่อย เช่น ในโรงงาน สนามบิน งานโลจิสติกส์

ปัจจุบันมีแบรนด์ Tactical ที่เกี่ยวกับตลาดอาวุธ อุปกรณ์ทางทหาร ไปจนถึงแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม Outdoor เช่น Walker's SureFire 3M Peltor ก็เริ่มพัฒนา Ear Plug เชิงพาณิชย์สำหรับตลาดพลเรือน และกลุ่ม Outdoor Shooting Sports อย่างจริงจัง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของ Ear Plug ที่ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ทางทหาร แต่เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม และกลายเป็นหนึ่งในของจำเป็น Ear Plug จึงกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่สามารถพบได้ทั่วไป เมื่ออยู่ในสถานที่ หรือกิจกรรมที่มีโอกาสพบกับเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ เช่น นักเดินทางที่ต้องการลดเสียงในเครื่องบิน นักดนตรี และนักกีฬาแข่งรถ ผู้ชมคอนเสิร์ต และผู้ใช้งานในที่สาธารณะเสียงดัง

แต่คู่แข่งสำคัญของ Ear Plug ในปัจจุบันก็ยังมี หูฟังตัดเสียงรบกวน แบบ Active Noise Cancelling (ANC) อย่างไรก็ตาม ถ้าหากใส่ Ear Plug ได้ถูกวิธี จะทำให้ประสิทธิภาพนั้นเรียกได้ว่าเหนือกว่า หูฟังตัดเสียงแบบ ANC เพราะ Ear Plug ยังเป็นตัวเลือกสำคัญในภารกิจที่ต้องการความเรียบง่าย งบจำกัด และประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีใส่ Ear Plug ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

การใส่ Ear Plug ที่ถูกวิธี มีผลต่อประสิทธิภาพการลดเสียง 50 - 70% เลยทีเดียว จากสถิติของ NIOSH และ OSHA ในสหรัฐฯ พบว่ากว่า 60% ของผู้ใช้งานทั่วไป ใส่ Ear Plug ไม่ถูกวิธี ทำให้เสียงยังรั่วเข้าหู และไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของ Ear Plug 100%

วิธีใส่ Ear Plug Foam (แบบโฟมอัด)

1. บีบโฟมให้เรียวเล็กที่สุด (เป็นแท่งเรียว ๆ แบบดินสอ) ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ บีบและม้วนโฟมให้แน่นที่สุด ห้ามบีบจนโฟมแตกหรือขาดโครงสร้าง

2. ใช้มืออีกข้างดึงใบหูขึ้นและออกไปด้านข้าง ช่วยเปิดช่องหูให้ตรงและตรงแนว หลายคนไม่ดึงใบหู ทำให้ Ear Plug อุดไม่มิด

3. ค่อย ๆ สอด Ear Plug เข้าไปจนถึงโคน (ไม่ต้องลึกจนรู้สึกอึดอัด) สังเกตว่าต้องเหลือปลายโฟมโผล่ออกมานิดเดียวพอจับถอดง่าย

4. รอให้โฟมขยายตัวเต็มที่ (ประมาณ 30 วินาที) เมื่อขยายตัวแล้วจะรู้สึกแน่นพอดี ทดสอบโดยพูดหรือดีดนิ้วใกล้ ๆ หู ถ้าเสียงลดลงแบบนุ่มและทึบ แสดงว่าใส่ถูก

วิธีการถอด Ear Plug Foam (แบบโฟมอัด)

1. จับที่ตัว Ear Plug และค่อย ๆ ดึงออกมา อย่าดึงที่สาย

2. เช็ดทำความสะอาด หรือล้างด้วยน้ำสะอาด และผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนใช้ครั้งต่อไป

3. หาก Ear Plug สกปรก เปลี่ยนสภาพ หรือชำรุดให้เปลี่ยนใช้อันใหม่

วิธีใส่ Ear Plug Rubber หรือ Silicone (แบบยาง หรือแบบครีบ Contour)

1. เช็กความสะอาดของ Ear Plug และช่องหู
   
2. ดึงใบหูขึ้น และค่อย ๆ ดัน Ear Plug เข้าไปตามแนวช่องหู
   
3. ดันให้แนบสนิททุกขั้นของครีบ Ear Plug (แบบ Contour ต้องให้ครีบทุกชั้นแนบเต็มรูหู)
   
4. อย่าดันแรงจนรู้สึกอึดอัดหรือเจ็บ

วิธีการถอด Ear Plug Rubber หรือ Silicone (แบบยาง หรือแบบครีบ Contour)

1. จับที่ตัวปลั๊กและค่อย ๆ ดึงออกมา อย่าดึงที่สาย
2. เช็ดทำความสะอาด หรือล้างด้วยน้ำสะอาด และผึ่งลมให้แห้งสนิทก่อนใช้ครั้งต่อไป
3. หาก Ear Plug สกปรก เปลี่ยนสภาพ หรือชำรุดให้เปลี่ยนใช้อันใหม่

ทำไมการใส่ Ear Plug ถูกวิธี มีประสิทธิภาพมากกว่า แบบ Active Noise Cancelling (ANC)?

• การใส่ Ear Plug ถูกวิธี ช่วย ลดเสียงรบกวน เฉลี่ยสูงถึง 30 - 35 dB ในสนามยิงปืน (ระดับ 100 - 130 dB)
  
• ANC Headphones ส่วนใหญ่ลดได้แค่ 20 - 25 dB และไม่สามารถจัดการกับเสียง Impulse (เสียงปืน ระเบิด) ได้ดีเท่า Ear Plug
  
• Ear Plug ไม่มีการรั่วเสียงจากขอบเหมือน Active Noise Cancelling (ANC) ถ้าใส่แน่น และถูกวิธี
  
• น้ำหนักเบา คล่องตัว เหมาะกับ Tactical Operation หรือการฝึกที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา
  

ข้อควรรู้! การใส่ Ear Plug ผิดวิธี แม้จะเป็น Ear Plug ราคาหลักพัน ก็ไม่ต่างกับ Ear Plug โฟมราคาถูกที่ใส่ไม่ถูกวิธี เทียบกับ Ear Plug โฟมราคาหลักสิบที่ใส่ถูกวิธี สามารถให้ประสิทธิภาพป้องกันเสียงระดับมืออาชีพได้

แนะนำ หูฟังป้องกันเสียงรบกวน ประเภท Ear Plug จาก Walker's

1. Foam Ear Plug (อุปกรณ์ลดเสียงรบกวน แบบโฟม)

คุณสมบัติ บีบแล้วขยายตัวในหู ราคาถูก เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง ลดเสียงได้สูง เหมาะกับสนามยิงปืนหรือพื้นที่เสียงดังจัด

2. Reusable Rubber Ear Plug (อุปกรณ์ลดเสียงรบกวน แบบยาง หรือ ซิลิโคน)

คุณสมบัติ ล้าง และนำกลับมาใช้ซ้ำได้ รูปทรง Contour เข้ากับช่องหู เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานประจำ และต้องการความสบายเวลาสวมใส่

3. Corded Ear Plug (อุปกรณ์ลดเสียงรบกวน แบบมีสาย)

 คุณสมบัติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องถอดใส่บ่อย ป้องกันการหล่นหาย

4. Band Ear Plug (อุปกรณ์ลดเสียงรบกวน แบบคาดคอ)

คุณสมบัติ สำหรับงานที่ต้องการถอดเข้าออกง่าย แถบคาดคอ สะดวก คล่องตัว

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ear Plug อุปกรณ์ป้องกัน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดเสียงรบกวน

• Noise Reduction Rating (NRR) เป็นสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกใช้ว่า ยิ่งสูง ยิ่งปกป้องเสียงดี (NRR 30+ สำหรับสนามยิงปืน)
  
• ใส่ผิดวิธี เท่ากับลดเสียงไม่ถึงครึ่ง ควรฝึกใส่อย่างถูกต้องทุกครั้ง โดยเฉพาะแบบโฟม ต้องบีบแล้วรอให้ขยายตัวเต็ม
  
• ห้ามใช้ Ear Plug แบบโฟม ซ้ำหลายวัน เพราะเชื้อราในหู และ การอักเสบอาจเกิดขึ้นได้ เพราะงั้นควรเปลี่ยนใหม่ทุกวัน หรือเลือกแบบยางซิลิโคนที่ล้างได้
  
• Ear Plug Tactical บางรุ่น (Walker's Pro Series) มีวาล์วกรองเสียงแบบพิเศษ ปลอดภัยแต่ยังฟังเสียงรอบข้างได้ (เหมาะกับภารกิจพิเศษ SWAT/EOD)
  

Ear Plug ที่ใส่ถูกวิธีนั้น สามารถลดเสียงได้มากกว่า Active Noise Cancelling (ANC) ถึง 2-3 เท่า ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง

แหล่งอ้างอิง

https://celicagroup.com/en/articles/99342-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1

https://www.metmuseum.org/art/collection/search/551968?utm_source=chatgpt.com 

https://abilityhearing.com.au/custom-ear-plugs-hearing-protection/ 

https://www.earjobs.com.au/blogs/news/the-most-bizarre-ear-protection-throughout-history