ประเทศอาเซียนกับภารกิจลับในสงครามโซเวียต-อัฟกัน
ทุกคนคงรู้จักสงครามโซเวียต-อัฟกัน กันดีใช่ไห ความขัดแย้งที่เป็นสงครามตัวแทนระหว่างสองชาติมหาอำนาจ...สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา
สงครามที่นำไปสู่การล่มสลาย ของสหภาพโซเวียตในอนาคต

วันนี้เรามากันในเรื่อง ประเทศอาเซียนกับภารกิจลับในสงครามโซเวียต-อัฟกัน

ในสงครามนี้มีประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นั่นก็คือ อินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย ได้ช่วยเหลือกลุ่มมูจาฮิดีน ในการต่อต้านฝ่ายโซเวียต
คำถามคือ แล้วพวกเค้า ช่วยเหลือกลุ่มมูจาฮิดีนยังไง
เดี๋ยววันนี้เราไปดูกัน

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 เมื่อพลโท ลีโอนาร์ดัส เบนจามิน โมเออร์ดานี (Leonardus Benjamin Moerdani)

นายทหารหน่วยข่าวกรองของอินโดนีเซีย ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิค ได้เดินไปยัง กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน

พร้อมกับนายทหารระดับสูงอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อพบปะกับ นายพล อัคตาร์ อับดุลเราะห์มาน (Akhtar Abdur Rahman)

หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง Inter-Services Intelligence หรือ ISI ของปากีสถาน

ซึ่งในการพูดคุยนั้น ฝ่ายปากีสถานได้ร้องขอไปยังฝ่ายอินโดนีเซีย ให้ช่วยสนับสนุนกลุ่มมูจาฮิดีน ในเรื่องของอุปกรณ์การแพทย์, ยารักษาโรค
และเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ "อาวุธ" นั่นเอง

ในช่วงเวลานั้นเนี่ยทุกคน
กองทัพอินโดนีเซีย มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ตามหลักนิยมของสหภาพโซเวียตอยู่เป็นจำนวนมาก
มันสืบเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลซูการ์โน่และรัฐบาลโซเวียต
ซึ่งตรงนี้เนี่ย เป็นสิ่งที่ ส่งผลไปถึงหลักนิยมของกองทัพอินโดนีเซีย ให้ตอบรับการใช้หลักนิยม และอาวุธยุทโธปกรณ์ของค่ายสหภาพโซเวียต นั่นเอง
แต่ภายหลัง จากการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากซูการ์โน่ ไปยัง ซูฮาร์โต้ นโยบายของอินโดนีเซีย
ก็มีแนวโน้มต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างชัดเจน
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองลดลง

กลับมาที่ กรุงอิสลามาบัด ภายหลังการร้องขอ การสนับสนุนจากฝ่ายอินโดนีเซียไป พลโทโมเออร์ดานี ได้ตอบรับ ต่อการร้องขอของฝ่ายปากีสถาน
แต่การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากอินโดนีเซียไปยังกลุ่มมูจาฮิดีน จะต้องถูกทำให้เป็นปฏิบัติการลับ

ซึ่งแผนการของฝ่ายอินโดนีเซียนั้นก็คือ การนำอาวุธที่มีอยู่ในคลังกองทัพของตน ไปให้กับกลุ่มมูจาฮิดีนนั่นเอง

โดยอาวุธเหล่านั้น จะต้องเป็นอาวุธที่ถูกผลิตขึ้นในสหภาพโซเวียต ซึ่งส่วนใหญ่ ล้วนเป็นปืน AK-47
ที่อินโดนีเซียจัดซื้อมาตั้งแต่ในยุต 60 เพื่อใช้ในปฏิบัติการตรีโกร่า
และแน่นอนว่าปืน AK-47 เหล่านั้นอะ
ก็เป็นที่ต้องการของกลุ่มมูจาฮิดีนเป็นอย่างมาก

อันเนื่องมาจาก การที่กลุ่มมูจาฮิดีน สามารถยึดเครื่องกระสุนจากฝ่ายโซเวียต และกองทัพอัฟกันได้นั่นเอง

ซึ่งขั้นตอนในการรวบรวม ก็กินเวลาอยู่นานพอสมควร อีกทั้งยังต้องทำการลบเลขออกจากตัวปืนด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปกปิดการมีส่วนร่วมของอินโดนีเซีย ในการช่วยเหลือกลุ่มมูจาฮิดีน
เพื่อขนส่งปืน AK-47 จากอินโดนีเซียไปยังอัฟกานิสถาน อินโดนีเซีย ได้วางแผนที่จะขนส่งปืน ไปพร้อมกับสิ่งของบรรเทาทุกข์

โดยใช้ปฏิบัติการ เพื่อมนุษธรรมเป็นฉากบังหน้า ทุกคน
โดยปฏิบัติเริ่มต้นราวๆเดือนมิถุนายนในปี 1981

ปืนที่ถูกรวบรวมมา ถูกบรรจุลงในลังไม้ ซึ่งปนไปกับลังไม้อื่นๆ ที่บรรจุยารักษาโรค และ สิ่งของอุปโภคบริโภคไว้

จากนั้น ลังทั้งหมด ก็ถูกขนขึ้นเครื่องบิน Boeing 707 โดยเครื่องบิน ได้ทำการบินจากกรุงจาการ์ต้า ไปยัง เกาะดิเอโก้ กราเซีย ในมหาสมุทรอินเดีย
จากนั้นก็ได้บินต่อไปยังเมืองราวัลปินดี ประเทศปากีสถาน ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ISI ของปากีสถาน
ได้สแตนบายขบวนรถสำหรับขนย้ายอาวุธปืนไว้อยู่แล้ว

โดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ISI ได้ทำการส่งมอบอาวุธและสิ่งของต่างๆ ของอินโดนีเซียให้กับกลุ่มมูจาฮิดีน ที่ จังหวัดนันการ์ฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน
ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศปากีสถานนั่นเอง

ไม่มีใครรู้ว่า อาวุธจากอินโดนีเซีย มีบทบาทมากน้อยแค่ไหนในสงครามโซเวียต-อัฟกัน

แต่ก็อาจจะเรียกได้ว่า นี่เป็นปฏิบัติการลับของอินโดนีเซีย
ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ค่า

Leave a comment

All comments are moderated before being published