บทวิเคราะห์จากอดีตหน่วยรบพิเศษสหรัฐ ต่อคลิปเหตุการณ์โจรบุกปล้นรถหุ้มเกราะ Valor Tactical

    เชื่อว่าในตอนนี้หลายๆท่านอาจจะมีโอกาสได้ดูคลิปของเจ้าหน้าที่ 2 คน
    ที่ถูกบุกปล้นรถหุ้มเกราะ ถูกระดมยิงด้วยอาวุธปืน และพวกเขาได้ใช้
    ประสบการณ์ของเขาในการเอาตัวรอด ซึ่งได้รับการบันทึกเหตุการณ์เอาไว้
    จากกล้องติดรถของเขา 

    สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูคลิปนี้ สามารถดูได้ที่นี่ครับ



    ย้อนกลับไปในวันที่ 22 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา Leo Prinsloo ( คนขับรถ )
    และ Lloyd คู่หูของเขา ( คนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ ) กำลังทำหน้าที่
    อยู่ในรถขนเงินซึ่งกำลังเดินทางไปยังจุดหมาย ซึ่งในตอนนั้นเขากำลังอยู่ใน
    ถนนหลวง N4 ของเมืองพริทอเรีย (Pretoria) 

    และในตอนนั้นเอง พวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีโดยผู้ร้ายที่ต้องการปล้นรถขนเงิน
    โดยอาศัยช่วงเวลาเช้าตรู่ของวัน ในตำแหน่งเปิดโล่ง ในมุมมองของผู้ร้าย
    มันดูจะเป็นเหมือนกับเป็นงานง่ายๆของพวกเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่า
    เจ้าหน้าที่รถขนเงินมักจะไม่มีประสบการณ์ในการสู้รบ และน่าจะเป็นเป้าหมาย
    ที่คุ้มค่าของพวกเขา


    อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และกลางแจ้ง

    แต่กลับไม่ใช่แบบนั้น .. เจ้าหน้าที่ที่เป็นพลขับในวันนั้นคือ Leo Prinsloo
    ผู้ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษของแอฟริกาใต้
    และยังเป็นหัวหน้าชุดครูฝึกประจำบริษัท Fortis Pro Active Defense Solutions
    ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย และให้บริการ
    เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สำหรับงานคุ้มกันหลายอย่าง 
    ( ผู้แปล : อารมณ์เหมือนบริษัท G4S บ้านเราครับ )

    โดยที่ในบทความนี้ ทางเราได้รับเกียรติจาก Benjamin Bunn 
    ผู้เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษสหรัฐ ผู้ที่มีประสบการณ์
    ทั้งกับสมรภูมิอิรัก และอัฟกานิสถานในช่วงปี 2000-2016
    จะมาทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เหตุการณ์นี้กันครับ

    " หลังจากที่ผมได้ดูวีดีโอนี้ครบ 2 รอบ ผมบอกตรงๆว่าผมรู้สึกช็อคนิดๆนะ
    และมันทำให้ผมต้องมาดูวีดีโอนี้อีกรอบในครั้งที่ 3 เพื่อให้เห็นชัวร์ๆว่า
    นี่ไม่ใช่ฉากหนึ่งในหนังเรื่อง The Town ... ให้ตายสิ วีดีโอนี้ทำให้ผม
    นึกถึงฉากนั้นในหนังจริงๆ "

    ( ผู้แปล : ฉากในหนังที่ Bunn พูดถึงคือคลิปนี้ครับ )



    " พอมาดูในวีดีโอเหตุการณ์จริงและสังเกตุดีๆ
    สิ่งหนึ่งที่ผมยอมรับเลยคือตัวคนขับรถ ( Prinsloo )
    ควบคุมสถานการณ์ได้ดีมากๆ แม้ว่าจะถูกกดดัน
    จากกระสุนปืนและอะไรหลายๆอย่าง เขายังนิ่งสงบ
    สามารถโต้ตอบสถานการณ์และมองหาทางออกได้อย่างไหลลื่น

    ถึงในคลิปเราจะเห็นว่าเขาดูหายใจถี่กว่าปกติ
    ซึ่งบอกเลยว่านั่นคือเรื่องปกติ ในตอนที่อะดรีนาลีน
    กำลังสูบฉีดภายในร่างกายของเขา "

    Bunn กล่าวต่อ .. " แม้แต่ Lloyd คนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
    ถึงแม้ว่าเขาจะดูตื่นตกใจและหายใจถี่กว่า ดูไม่นิ่งเท่ากับ Prinsloo
    แต่ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆที่จะควบคุมตัวเองได้
    โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนั้น ในจังหวะที่มือกำลังถืออาวุธ
    และรู้ว่ากำลังมีการระดมยิงใส่เข้ามาที่เรา
    โดยมีแค่กระจกเป็นตัวกั้นระหว่างผู้ร้ายกับตัวเราเท่านั้น ... " 



    " ตัวคนขับสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้ดี เหมือนกับเขาได้ทำการเตรียมตัว
    เพื่อรับมือกรณีเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้ว เขาพยายามนำตัวเอง
    ออกจากจุด Kill Zone ให้ได้ซึ่งนั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง " Bunn กล่าวถึงคนขับ

    Kill zone มันคือตำแหน่งปะทะ กรณีที่เราวางแผนที่จะซุ่มโจมตี
    เป้าหมายอะไรซักอย่าง  มันคือตำแหน่งที่เราจะต้องทำการรอ
    รอจนกว่าเป้าหมายจะเข้าสู่บริเวณนั้น และหลังจากนั้นเราจะทำการระดมยิง
    โจมตีไปที่เป้าหมายทันที ตำแหน่งนั้นแหละคือ Kill Zone 
    และในทางกลับกัน หากเราเป็นเป้าหมายและถูกซุ่มโจมตี
    การที่เรายังอยู่ใน Kill Zone นั่นก็คือเราตายแน่ๆ 100% 

    Bunn มองกลับกันในมุมมองของผู้ร้าย ... " การตัดสินใจโจมตีในตอนนั้น
    รวมไปถึงการประเมินสถานการณ์ ทำให้เห็นว่าผู้ร้ายไม่ได้รับการฝึกฝนมา
    โดยเฉพาะในด้านยุทธวิธี ... "

    พวกเขาคงคิดว่าคนขับรถขนเงินพวกนี้ คงจะหนีเตลิดทันที
    ที่เห็นพวกเขายิงเข้ามา มันดูเป็นไปได้ยากมากในมุมมองของผู้ร้าย
    ที่เจ้าหน้าที่จะลงจากรถและยิงปะทะสวนกลับมากับพวกเขา

    พวกเขาคงคิดว่าการบุกปล้นรถขนเงินโดยเฉพาะในช่วงเช้า
    หาตำแหน่งโล่งๆที่คนไม่พลุกพล่าน อยู่บนถนนทางหลวง
    ที่ไม่มีรถสัญจรเยอะ มันคงเป็นอะไรที่ง่ายดาย และนั่นคือจุดที่พวกเขาพลาด ...
     


    จากประสบการณ์การปฏิบัติงานของ Bunn กล่าวว่าตัวเขา
    และบรรดาเจ้าหน้าที่หรืออดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษทั้งหลาย
    ที่ถูกฝึกมาให้รับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ทางออกมีเพียงทางเดียวเท่านั้น

    หนี ! หนีออกจากจุด Kill Zone นั่นให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม

    และนั่นคือสิ่งเดียวกันกับที่ Prinsloo ทำ ในวินาทีที่
    กระสุนนัดแรกยิงเข้าไปที่ตัวรถ เขาก็เริ่มต้นในการขับหลบหลีกผู้ร้าย
    ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเข้าข้างทาง และพยายามข้ามที่กั้นถนน
    เพื่อย้อนกลับไปอีกฝั่งในทางที่ตนเองมา ซึ่งในขณะนั้น
    เราจะเห็นรถ Audi A5 ที่ขับเข้ามา และหนึ่งในโจรที่ดักรออยู่ที่ถนน
    ในฝั่งของคนนั่ง ( วงกลมสีแดงในภาพประกอบด้านล่าง )
    และพยายามยิงเข้ามาที่หน้าต่างฝั่งคนนั่งเช่นเดียวกัน ...



    " แม่งยิงมาหาเรา แม่งตั้งใจจะยิงเราให้ได้ ! " คือประโยคที่ Prinsloo
    พูดกับ Lloyd เพื่อให้เตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายสุด

    หลังจากนั้น Prinsloo ก็บอกให้ Lloyd โทรหา Robbie และ Josh 
    เพื่อเช็คว่าพวกเขาโอเคไหม และอยู่ที่ไหนกัน ..

    Robbie และ Josh ( 2 คนในรูปด้านล่าง ) คืออีกทีมนึงที่ทำหน้าที่
    แบบเดียวกับ Prinsloo แต่อยู่กับรถอีกคันนึง และกำลังจะเดินทาง
    ไปยังที่หมายในช่วงเวลาเดียวกัน ( บันทึกจากรายงานของบริษัทในวันเกิดเหตุ )

    อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน และผู้คนกำลังยืน

    ซึ่งในจุดนั้นนับว่า Prinsloo มีการรับมือกับเหตุการณ์กดดันได้ดีมาก
    และยังคงมี situational awareness มากพอในการบอกให้ตรวจสอบ
    ไปยังเพื่อนร่วมทีม ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ถูกซุ่มโจมตีแบบพวกเขาหรือไม่
    เป็นการตรวจสอบความพร้อมของทีม และประเมินสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
    หากทีมพวกเขารอดจากการถูกปล้น ทีมของ Robbie และ Josh อาจจะ
    กลายเป็นเป้าหมายรายต่อไป การหาโอกาสติดต่อเพื่อแจ้งเตือนทีมที่เหลือ
    ถือเป็นการตัดสินใจที่ดี ซึ่งพวกเขาทำได้ดีมากๆด้วย



    " เขาไม่มีความคิดที่จะชะลอ หรือหยุดรถเพื่อออกไปต่อสู้
    สิ่งที่เขาทำในวินาทีนั้นคือการออกจากพื้นที่ให้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน
    ก็ให้ผู้ช่วยของเขา ( Lloyd ) ทำการติดต่อเพื่อเช็คกับอีกทีม
    และบอกให้เขาเตรียมอาวุธให้อยู่ในสถานะพร้อมทำการยิง 

    เป็นการเตรียมตัวในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
    เช่นรถไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อได้ , รถเสีย ,
    ถูกยิงจนเครื่องยนต์พัง ทุกอย่างถูกคิดเอาไว้แล้ว
    ในทุกความเป็นไปได้ นับว่าเขาตัดสินใจได้อย่างนิ่งสงบ
    มีประสิทธิภาพ และน่าชื่นชมอย่างมาก "

    Bunn กล่าวถึงการตัดสินใจของ Prinsloo ในคลิปวีดีโอ



    หลังจากนั้นในช่วงท้ายคลิปเราจะเห็นว่ารถของพวกเขา
    ชนกับอะไรซักอย่าง เราไม่รู้ว่าชนกับอะไร หรือติดอะไร
    แต่สิ่งที่พวกเขากลัวก็เกิดขึ้นจริง ถึงจุดนั้นสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้
    ก็คือการออกจากรถ และตั้งแนวป้องกันเพื่อรับมือกับผู้ร้าย

    ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ผู้ร้ายเห็นแล้วว่าจะมีการปะทะเกิดขึ้นแน่ๆ
    สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือกลุ่มผู้ร้ายต่างถอนตัวออกไป และหลีกเลี่ยงการปะทะ
    กับ Prinsloo ซึ่งทำให้เหตุการณ์นี้สิ้นสุดลง




    ถึงแม้รถจะได้รับความเสียหายจากการปะทะ แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสอง
    รวมถึงพัสดุทุกอย่างปลอดภัย นับว่าเป็นบันทึกเหตุการณ์ที่มีหลักฐาน
    ค่อนข้างสมบูรณ์ และเป็นกรณีตัวอย่างให้ศึกษา ถึงขั้นตอนการรับมือกับ
    เหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งในจุดนี้เรียกได้ว่าทำได้ดีมากๆ
    และควรนำมาศึกษาไว้และต่อยอดความรู้ เป็นเคสตัวอย่างต่อไปครับ

    ที่มา : US Army Special Forces veteran explains viral video of armored truck heist (taskandpurpose.com)

    ผู้แปล เรียบเรียง : Ronnakrit " Viking " Sripumma 
    เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

    Articles บทความ