ในการต่อต้านการก่อการร้ายยิ่งกว่าทหารคนใดๆ
คำตอบก็คือ สุนัขทหาร - Military Working Dog (MWD) ยังไงล่ะครับ
บ่อยครั้งที่เรามักจะมองข้ามคู่หู เพื่อนสี่ขา ธรรมดาๆนี้
สนุัขทหาร กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ เป็นเขี้ยวเล็บอีกแขนงหนึ่งของกองทัพ
โดยเฉพาะยุคสงครามนอกแบบ และ อสมมาตร (Asymmetric Warfare)
ความซับซ้อนและสงครามย่อยๆ ต่อยอดสืบเนื่องกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และหาผลลัพธ์ไม่ได้ การก่อการร้ายที่เป็นเชื้อปะทุกลุ่มบุคคลที่หลากหลาย
และการต่อต้านองค์กรค้ายาเสพติด
และเหมือนกับทหารผู้ฝึกสุนัข ที่ เติบโตมาร่วมกัน ทั้งสองสามารถปฏิบัติงานได้หลากหลาย
โดยเฉพาะเพื่อนสี่ขา ที่มีความโดดเด่นเฉพาะที่แตกต่างกันไป
ทั้งความถนัด ศักยภาพทางร่างกาย และ นิสัย
สัมพันธ์กับสายเลือดและพันธุ์กำเนิดของพวกเขา
สนัขทหารถือเป็น กำลังพลที่คุ้มค่าและเอนกประสงค์มากๆ ในกองทัพเลยก็ว่าได้
มีการทดลองใช้งานสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ในการทหาร
เริ่มต้นตั้งแต่ยุต สงครามโลกครั้ง 2
กองทัพบกได้นำสุนัขสายพันธุ์แท้กว่า 30 สายพันธุ์
มาฝึกเพื่อใช้ใน กองพลสุนัขทหาร (K-9 Corps)
กาลเวลาผ่านไปผลสรุปได้ถูกบีบมาถึงสายพันธุ์ที่มีศักยภาพ
และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพียง 5 สายพันธุ์หลัก ประกอบไปด้วย
เยอรมัน เชปเพริด (German Shepherds)
เบลเยี่ยน มัลลินอย (Belgian Malinois, Belgian Sheepdogs)
โดเบอร์แมน พินชเชอร์ (Doberman Pinschers)
คอลลี่ (Collies)
และ ไจแอนท์ ชเนาวเซอร์ (Giant Schnauzers)
และเข้าเส้นชัยอย่างไม่มีข้อยกเว้นกับสายพันธุ์อลาสกัน
มาลามิ้ว (Malamutes)
และ ฮัสกี้ (Huskies)
ซึ่งมีจุดเด่นอีกอย่างที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในเขตหนาวได้อีกด้วย
ในปัจจุบัน สุนัขทหารที่ประจำการ ที่พบเห็นได้บ่อยๆคือ
เยอรมัน เชปเพริด และ เบลเยี่ยน มัลลินอย
2 สายพันธุ์นี้มีจุดเด่นหนักแน่นในเรื่องของ ความซื่อสัตย์ ความหลักแหลม
ร่างกายที่แข็งแรง คล่องแคล่ว และ ความดุร้าย
และถ้าหากมองให้ลึกยิ่งกว่านั้น เยอรมัน เชปเพริด
เป็นสายพันธุ์ที่ยืดหยุ่นได้ที่สุด เรียนรู้ได้ไว ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และ สภาวะการปฏิบัติงานที่หลากหลายได้
โดยพื้นฐานแล้ว คู่หูสี่ขา มีสายตา หู และ จมูก ที่เหนือกว่ามนุษย์อยู่หลายเท่าตัวนัก
โดยเฉพาะ จมูก ประสาทการรับกลิ่นและการจำแนก ที่มากกว่ามนุษย์ถึง 20 เท่า
เป็นความสามารถเหนือมนุษย์ที่ทำให้ คู่หูสี่ขา เข้ามามีบทบาทในกองทัพ
มีสุนัขทหารอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆ แบ่งโดยขีดจำกัดความสามารถ และ หน้าที่ของพวกเขา
1) สุนัขทหาร แบบ 1 หน้าที่หลัก - Single-Purpose Military Working Dogs
ตามช่อของตำแหน่งนี้เลยคือ สุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อภารกิจเฉพาะเจาะจงพัฒนาขึ้นเป็นความถนัดของสุนัขตัวนั้นๆ เช่น การตรวจค้นหาวัตถุระเบิด
การตรวจค้นหายาเสพติด หรือสุนัขแกะรอย
ทำไมถึงต้องจำกัดความสามารถหากสุนัขอาจมีศักยภาพมากกว่านั้น
แต่สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ การที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่า สุนัขนั้นค้นพบอะไร
หากเพื่อนสี่ขากำลังส่งท่าทางบอกสัญญาณ
อาจจะเป็น ยาเสพติดอัดแท่ง หรือ หีบห่อระเบิดแสวงเครื่อง
ซึ่งเราไม่อยากสับสนเรื่องนี้แน่ๆ
แต่การมีหน้าที่เพียงหนึ่งเดียว ทำให้เกิดเป็นผลดีอยู่
นั้นคือสุนัขสามารถจดจำแนวทางเฉพาะของตนเองได้
เช่นการจำแนกประเภทระเบิดเฉพาะทาง แตกย่อยออกไปได้ ตัวอย่างเช่น
สุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิด (Explosive Detector Dog - EDD)
สุนัขประเภทนี้มักทำงานร่วมกับคู่หูและสายจูง
สุนัขตรวจค้นกับระเบิด (Mine Detection Dogs - MDD)
สุนัขประเภทนี้ทำงานแบบปล่อยสายจูง ใช้ในการเตือนภัยกับระเบิด หรือ เครื่องกระสุนที่ฝังอยู่ใต้ดิน
สามารถทำงานลาดตะเวน หรือ เดินทัพพร้อมกับกลุ่มใหญ่ๆได้
สุนัขตรวจค้นสารเสพติด (Narcotics Detector Dogs - NDD)
หน้าที่และการปฏิบัติงานเหมือนกับ EDD ในข้อแรก เพียงแต่เปลี่ยนเป้าหมายจากวัตถุระเบิดเป็นสารเสพติด
สุนัขแกะรอย (Specialized Search Dogs - SSD)
ที่เหนือขั้นขึ้นมาอีก สามารถปฏิบัติงานแบบปล่อยสายจูง
ตอบสนองต่อ คำสั่งเสียง หรือ สัญญาณมือได้
สามารถฝึกฝนให้ตรวจค้นวัตถุระเบิดระหว่างค้นหาเป้าหมายเป็น หน้าที่รองได้
สุนัขทหารประเภทนี้ นิยมใช้ใน เหล่านาวิกโยธินสหรัฐ และ หน่วยค้นหาและกู้ภัย
และพวกเขายังพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารติดไว้กับตัวเพื่อนสี่ขาของพวกเขา
เพื่อการปฏิบัติงานอย่างราบรื่นสอดคล้องกันอีกด้วย
และสุดท้ายในหมวดนี้
สุนัขแกะรอยจู่โจม (Combat Tracker Dogs - CTD)
ความสามารถและหน้าที่แทบจะคล้ายกับ SSD ต่างกันตรงที่ สุนัขประเภทนี้ถูกฝึกมาให้
มีการแยกแยะเป้าหมาย และรับคำสั่งจู่โจมได้ด้วย ซึ่งต่างกับ SSD
ที่มักจะถูกใช้ในการค้นหาเพียงอย่างเดียว
สุนัขทหารประเภทนี้ นิยมใช้ใน เหล่านาวิกโยธินสหรัฐ เช่นเดียวกันกับ SSD
2) สุนัขทหาร แบบ 2 หน้าที่หลัก - Dual-Purpose Dogs Military Working Dogs
แตกต่างขึ้นมาจากแบบแรกคือ เป็นสุนัขที่จะสามารถทำหน้าที่ตรวจค้น วัตถุระเบิด หรือ สารเสพติด
อย่างใดอย่างหนึ่ง และร่วมกับหน้าที่การลาดตระเวนหรือค้นหาบุคคล
ข้อสำคัญอย่างหนึ่งในสุนัขทหารที่จะผ่านเกณฑ์ประเภทนี้เลยคือ สายพันธุ์แท้
หรือ สายพันธุ์ที่ได้รับการรับรองเท่านั้น
สุนัขทหารประเภทนี้นิยมใช้งานใน กลุ่มทหารสารวัตร และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สามารถจัดกลุ่มเป็นได้ 2 ประเภทย่อยตามข้อมูลด้านบนคือ
สุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิดและลาดตระเวน (Patrol Explosive Detector Dog - PEDD)
และ
สุนัขตรวจค้นสารเสพติดและลาดตระเวน (Patrol Narcotics Detector Dog - PNDD)
3) สุนัขทหาร แบบหลากหลายหน้าที่หลัก - Multi-Purpose Military Working Dogs
เดาไม่ยากเลยใช่ไหมครับ กับ สุนัขทหารประเภทสุดท้ายถือเป็นสุนัขที่ผ่านการฝึกฝนและคัดเลือกที่น้อยตัวนัก ที่จะมาถึงจุดนี้
และผู้ใช้ก็คงเป็นอื่นอันใดไปไม่ได้นอกจาก หน่วยปฏิบัติการพิเศษเท่านั้น
ที่ภารกิจมีความหลากหลายซับซ้อน
ถือเป็นขั้นสูงสุดของสายงานสหายสี่ขาแล้ว เรียกกันย่อๆว่า
MPC - Multi-Purpose Canines
ที่กล่าวมาตั้งแต่ประเภทที่ 1 และ 2 สุนัขทหารประเภทนี้
สามารถทำได้ทั้งหมดที่กล่าวมาและยังจำแนกหน้าที่และภารกิจที่ซับซ้อนของตน
อดทนและปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้
ตามแต่คู่หูปฏิบัติการพิเศษของเขาจะพาไป
MPC จะถูกเพ่งเล็งพรสวรรค์และศักภาพตั้งแต่ยังเด็ก เติบโต ฝึกฝน
และ เรียนรู้มาพร้อมๆกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
เป็นคู่หูไปไหนไปกันได้ในทุกภารกิจ สามารถร่วมทางได้ตั้งแต่
การโดดร่มส่งทางอากาศ การโรยตัว
ถูกฝึกให้ใช้งานและสวมใส่ เสื้อเกราะทางยุทธวิธี
กล้องมองกลางคืน และ รับคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร
และยิ่งไปกว่านั้น มีการยืนยันแล้วว่ามี MPC ชื่อว่า ไคโร
เข้าร่วมภารกิจเคียงบ่าเคียงไหล่สังหาร บิน ลาเดน ในปฏิบัติการ เนปจูน สเปียร์ (Operation Neptune Spear)
การที่สุนัขหนึ่งตัวจะเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจทางทหารได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทั้งสุนัขและคู่หูผู้ใช้งานจำเป็นต้องฝึกฝน ใช้เวลาร่วมกัน
สร้างความผูกพันอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ
และกองทัพยังมีกฏให้ ทั้งผู้ใช้งาน และ สุนัข
จำเป็นต้องผ่านการตรวจประเมินในทุกๆปี
เพื่อที่จะได้รู้ถึงจำนวน คู่หู ที่พร้อมปฏิบัติการ
และ เชื่อใจได้ว่าจะไม่มี ทางใดทางหนึ่งทำให้ภารกิจล้มเหลว
อันเป็นเนื่องมาจากความไม่สอดคล้องของทั้ง ผู้ใช้งาน และ ตัวสุนัขเอง
ที่มา : https://sofrep.com/news/military-working-dogs-more-than-just-a-soldiers-best-friend/
บทความ : MILITARY WORKING DOGS: MORE THAN JUST A SOLDIER’S BEST FRIEND
ผู้แปล เรียบเรียง : ธีธัช รินชัย เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564
