Richard "Dick" Marcinko  บิดาแห่ง  SEAL TEAM  SIX Valor Tactical

Richard "Dick" Marcinko  บิดาแห่ง  SEAL TEAM  SIX  


มาร์ซินโก เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 1940 ในเมืองแลนส์ฟอร์ด รัฐเพนซิลเวเนีย ตัวเขามีเชื้อสายสโลวัก เนื่องจากพ่อแม่ของเขามาจากสโลวาเกีย เมื่ออายุยังน้อย ครอบครัวของเขาย้ายไปนิวบรันสวิก รัฐนิวเจอร์ซีย์


หลังจากออกจากโรงเรียนมัธยมในนิวบรันสวิก รัฐนิวเจอร์ซีย์ มาร์ซินโกพยายามสมัครเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากเขาเรียนไม่จบมัธยมปลาย  Marcinko ประสบความสำเร็จในการเกณฑ์ทหารในกองทัพเรือสหรัฐฯในเดือนกันยายนปี 1958 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิทยุ Marcinko จบหลักสูตร  Underwater Demolition Team/ Replacement (UDTR) รุ่นที่ 26 ในเดือนตุลาคม พ.ศ.1961 เขาประจำการใน UDT-21 จนกระทั่งได้รับเลือกให้เป็นนายทหารในปี 1965 หลังจากสำเร็จการศึกษาจาก Officer Candidate School ในเดือนธันวาคม 1965 ตำแหน่งแรกที่ได้รับหลังจากเรียนจบคือนายธง และต่อมาถูกบรรจุเข้า SEAL Team TWO ในเดือนมิถุนายน 1966



Vietnam War


ในเดือนมกราคม 1967 มาร์ซินโก ถูกส่งไปปฏิบัติการในเวียดนาม พร้อมหมวดที่ 2 ของ SEAL Team Two ทัวร์แรกของเขาใช้เวลา 6 เดือน  วันที่ 18 พฤษภาคม 1967 Marcinko ได้นำคนของเขาเข้าโจมตีเวียดกงบนเกาะ  Ilo Ilo Hon ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้สามารถสังหารเวียดกงจำนวนมากรวมถึงทำลายเรือสำเภาหกลำของพวกเขา กองทัพเรือสหรัฐถือว่าปฏิบัติการในครั้งเป็น "การปฏิบัติการของหน่วยซีลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง" Marcinko ได้รับเหรียญ Bronze Stars (เหรียญแรกจากทั้งหมดสี่เหรียญ)  รวมทั้ง Cross of Gallantry ของเวียดนามและ เหรียญ Silver Star จากภารกิจนี้ พร้อมถูกตั้งค่าหัวสูงถึง 50,000 piasters (สกุลเงิน อินโดจีนของฝรั่งเศส )จากฝ่ายเวียดนามเหนือ


หลังจากจบทัวร์แรกไม่นาน มาร์ซินโกก็กลับมายังเวียดนามพร้อมกับ SEAL Team Two อีกครั้ง  ระหว่างธันวาคม 1967 ถึงมิถุนายน 1968ในช่วงของ การรุกตรุษญวน(Tet Offensive) Marcinko นำหมวดของเขาเข้าสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ในการรบที่ Chau Doc  การสู้รบที่เริ่มต้นจากท้องถนนในเมืองกลายเป็นภารกิจช่วยเหลือตัวประกันพยาบาลชาวอเมริกันและเจ้าหน้าที่ USAID 8 คน ที่ติดอยู่ในโบสถ์และโรงพยาบาลของเมือง  


หลังจากจบทัวร์ครั้งที่สองของเขาในเวียดนามและปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเดิมราวสองปี มาร์ซินโกได้รับการเลื่อนยศเป็น นาวาตรี ปฏิบัติหน้าที่ทูตทหารเรือประจำกัมพูชาในปี 1973 เป็นเวลา 18 เดือน หลังจากจบภารกิจ มาร์ซินโกกลับมาที่อเมริกาและรับตำแหน่งผู้บัญชาการ  SEAL Team Two จากปี 1974 ถึง 1976 


SEAL Team Six (DEVGRU)

ภาพสมาชิกรุ่นแรกของ SEAL Team Six

 

ระหว่างวิกฤตการณ์ตัวประกันอิหร่านในปี 1979 มาร์ซินโกเป็นหนึ่งในสองผู้แทนกองทัพเรือประจำคณะเสนาธิการร่วม (Joint Chiefs of Staff)  ของชุดเฉพาะกิจ TAT (Terrorist Action Team) โดยชุดเฉพาะกิจนี้มีภารกิจคือการวางแผนช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันที่ถูกคุมขังในอิหร่าน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ปฏิบัติการ Eagle Claw  ซึ่งผลของปฏิบัติการในครั้งนั้นจบลงที่สหรัฐต้องสูญเสียกำลังพลไป 8 นาย และอากาศยานอีกจำนวนหนึ่ง ผลพ่วงจากความผิดพลาดในครั้งนั้นทำให้ กองทัพเรือสหรัฐเล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีทีมต่อต้านผู้ก่อการร้ายโดยเฉพาะเอาไว้รับมือเหตุการณ์แบบนี้ และมอบหมายให้ มาร์ซินโกออกแบบและพัฒนาหน่วยที่ว่านี้ขึ้นมา 


มาร์ซินโก ได้รับเลือกจากผู้บัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ Thomas B. Hayward ให้เป็นผู้บังคับบัญชาคนแรกของหน่วยใหม่นี้ ในเวลานั้นกองทัพเรือมี SEAL  อยู่แล้ว 2 ทีมคือ  Teams One และ  Teams Two มาร์ซินโก ตั้งชื่อหน่วยใหม่ของเขาว่า SEAL Team Six  เพื่อสร้างความสับสนให้กับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะสหภาพโซเวียต มาร์ซินโก คัดเลือกสมาชิกของหน่วยด้วยตัวเองจากทีม SEAL ทั้งหมดของกองทัพเรือสหรัฐฯ และทีมทำลายล้างใต้น้ำ (UDT ) รวมถึงทีมการต่อต้านการก่อการร้ายของ SEAL Team Two ซึ่งมีชื่อรหัสว่า MOB-6    


มาร์ซินโกตั้งใจสร้างให้ SEAL Team Six เป็นหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายชั้นยอดของกองทัพเรือ เช่นเดียวกับ Delta Force ของกองทัพบก เขาดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชา SEAL Team Six เป็นเวลาถึงสามปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1980 ถึงกรกฎาคม 1983 (ปกติแล้วจะเป็นเเค่ 2ปี)



Red Cell

 

หลังจากส่งต่อการบังคัญบัญชา SEAL Team Six แล้ว มาร์ซินโก ก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่จาก พล.ร.ท James "Ace" Lyons  รองผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐให้สร้างทีมสำหรับทดสอบช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือต่างๆของกองทัพเรือสหรัฐ   หน่วยนี้เป็นที่รู้จักในนาม OP-O6D หรือ Red Cell  ทีมนี้มีกำลังพลทั้งหมด 14 นายประกอบด้วยอดีตสมาชิกของ SEAL Team Six 13 นาย และ Force Recon หนึ่งนาย มี มาร์ซินโก เป็นหัวหน้าทีม


Red Cell  มัก ใช้รหัสปลอมลอบเข้าไปภายในฐานทัพเรือ,จับตัวประกัน และลักพาตัวบุคลากรระดับสูง ครั้งหนึ่ง Red Cell สามารถลอบเข้าไปวางระเบิดใกล้กับ เครื่อง Air Force One หรือแม้กระทั้งแอบเข้าไปในฐานทัพเรือดำน้ำแล้วทำการยึดมันซะ ปฏิบัติการทั้งหมดของ Red Cellจะถูกบันทึกและรายงานไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฐานนั้นๆในเวลาต่อมา ซึ่งรายงานเหล่านี้จะทำให้พวกเขาเห็นช่องโหว่และปัญหาที่พวกเขาควรแก้ไข  อย่างไรก็ตามหลายคนกลับมองว่าปฏิบัติการของ Red Cell คือการหยามน้ำหน้าพวกเขาเต็มๆ  ทำให้ต่อมามาร์ซินโก ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดต่างๆ รวมถึงการยักยอกเงินจดเขาถูกปลดออกและทีมถูกยุบไป 


อย่างไรก็ตาม Red Cell ถูกตั้งขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดย CIA หลังเหตุการณ์โจมตี 9/11 เพื่อระดมความคิดจากหลายๆส่วนในการกำหนดมาตรป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ

 หลังปลดประจำการ มาร์ซินโก เขียนอัตชีวประวัติเรื่อง Rogue Warrior ซึ่งขายดีที่สุดของ New York Times และเขียนหนังสือนิยายเรื่องอื่นๆอีกหลายเล่ม นอกจากนั้นเขายังเป็น CEO ของ Red Cell International และ SOS Temps Inc., ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยส่วนตัวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เขามีรายการทอล์คโชว์ทางวิทยุเกี่ยวกับการเมือง” America on Watch with Dick Marcinko” เป็นโฆษกของ Zodiac Maritime Training Academy ของบริษัทเรือ Zodiac และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในละครโทรทัศน์เรื่อง 24 ของ FOX เขาร่วมมือกับ Strider Knives เป็นเวลาสั้น ๆ ในการออกแบบมีด รุ่น  "Rogue Warrior"


Richard "Dick" Marcinko  เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ มาร์ซินโกอยู่ในกองทัพเรือสหรัฐ เขามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ SEAL โดยทิ้งมรดกที่ไม่เหมือนใครเอาไว้เบื้องหลัง “Demo Dick” ถือเป็นผู้ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เราขอส่งความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งถึงครอบครัว เพื่อนร่วมทีม และเพื่อนๆ ของเขา 



ที่มา
https://www.navytimes.com/breaking-news/2021/12/26/richard-marcinko-first-commanding-officer-of-seal-team-six-dies/   
https://en.wikipedia.org/wiki/Richard_Marcinko


 

ทิ้งข้อความไว้

ความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกกลั่นกรองก่อนที่จะเผยแพร่