ในอดีตเรามักจะคิดเสมอว่ามีเพียงแต่ชาติมหาอำนาจ (Great Power) เท่านั้นที่จะมีงบประมาณมากพอที่จะมีฐานทัพนอกเขตแดนของประเทศตน แต่รู้หรือไม่ ในปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลกต่างก็มีฐานทัพของตนอยู่ในต่างแดนเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศ, ภัยการก่อการร้าย, ความร่วมมือระดับภูมิภาค เป็นต้น ซึ่งหลายประเทศเหล่าก็มีประเทศจากภูมิภาคเอเชียรวมอยู่ด้วย ซึ่งเราจะมาดูกันในวันนี้
ประเทศที่ 1 – อินเดีย
อินเดียเป็นประเทศที่มีฐานทัพอยู่ต่างแดนมากกว่า 5 ฐาน ฐานแรกนั้นคือ ฐานทัพอากาศฟาร์คอร์ (Farkhor Air Base) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศทาจิกิสถาน โดยเริ่มแรกอินเดียได้ใช้ฐานทัพอากาศฟาร์คอร์ในการส่งยุทธปัจจัยสำคัญให้แก่ฝ่ายต่อต้านตาลีบัน “พันธมิตรฝ่ายเหนือ” ในอัฟกานิสถาน ปัจจุบันอินเดียและทาจิกิสถานได้ใช้ฐานทัพอากาศดังกล่าวร่วมกัน เหตุผลหนึ่งที่อินเดียต้องการคงฐานทัพอากาศนี้ไว้อาจมีเหตุมาจากที่ว่าฐานทัพอากาศดังกล่าวอยู่ห่างจากแคชเมียร์เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น อินเดียยังมีฐานถาวรในภูฏานอีกด้วย ซึ่งเป็นฐานสำหรับฝึกทหารจากกองทัพภูฏานภายใต้ชื่อโครงการ “Indian Military Training Team” ซึ่งฐานฝึกดังกล่าวถูกตั้งในปี ค.ศ. 1961, นอกจากฐานในทั้ง 2 ประเทศนี้แล้ว อินเดียยังมีฐานเรดาร์ในมาดากัสการ์, โอมานและมอริเชียส อีกด้วย
"อากาศยานแบบ Su-25 และ Su-30 ณ ฐานทัพอากาศฟาร์คอร์ ประเทศทาจิกิสถาน"
ประเทศที่ 2 – จีน
จีนมีฐานทัพนอกประเทศของตนอย่างเป็นทหารการอยู่หนึ่งฐาน ฐานนี้ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา ณ ประเทศจิบูติและถูกใช้งานโดย “กองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน” หรือ “PLAN” โดยฐานดังกล่าวนั้นถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการในภารกิจอย่าง ภารกิจปราบปรามโจรสลัด, ภารกิจอพยพผู้ประสบภัยชาวจีน, สนับสนุนภารกิจปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติรวมไปถึงภารกิจการรวบรวมข่าวสารอีกด้วยเนื่องจากจิบูติยังมีฐานของชาติอื่นๆอย่าง ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาอยู่ด้วย ในส่วนของฐานที่ไม่เป็นทางการ คาดการณ์ว่าจีนมีฐาน SIGINT หรือฐานรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ณ เกาะโคโค่ ประเทศเมียนมาร์, ฐานปฏิบัติการทางทหารในทาจิกิสถานและฐานทัพเรือในกัมพูชา ทั้ง 3 ฐานถูกปฏิเสธการมีอยู่จริงโดยรัฐบาลจีน
"ฐานของกองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชนในจิบูติ"
ประเทศที่ 3 – เกาหลีใต้
ด้วยความสัมพันธ์มากกว่า 40 ปี เกาหลีใต้ได้เริ่มต้นส่งกำลังทหารของตนสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ตั้งแต่ ปี 2011 ตามคำร้องขอของรัฐบาล UAE เพื่อให้เกาหลีใต้ช่วยเหลือในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆของกองทัพประเทศตนให้มีขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นโดยใช้เกาหลีใต้เป็นแบบอย่างในการพัฒนา เกาหลีใต้ได้ใช้ชื่อหน่วยทหารที่ปฎิบัติงานใน UAE ว่า “Akh Unit” (Akh แปลว่า พี่น้อง) โดยฐานของกองทัพเกาหลีใต้นั้นตั้งอยู่ที่เมืองซเวฮาน (Sweihan) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ UAE
"ประธานาธิบดีมุน แจอินครั้นเยี่ยมเยือนฐานของหน่วย Akh ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์"
ประเทศที่ 4 – ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีฐานอยู่ต่างแดนอยู่ 1 ฐานซึ่งก็คือฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศจิบูติโดยฐานดังกล่าวมีชื่อว่า “จิบูชิ เคียวอุวะโคคุ นิ โอเครุ จิเอไต เคียวเตน” เฉกเช่นเดียวกับจีน ฐานดังกล่าวถูกใช้ในภารกิจปราบปรามโจรสลัดบริเวณมหาสมุทรอินเดียและเป็นศูนย์กลางการอพยพพลเรือนญี่ปุ่นออกจากพื้นที่อันตรายต่างๆในภูมิภาคแอฟริกา
"ทหารกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นและเครื่องบินลาดตระเวนแบบ P-3 ของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น ณ ฐานของญี่ปุ่รชนในประเทศจิบูติ"
ประเทศที่ 5 – สิงคโปร์
สิงคโปร์นับว่าเป็นประเทศเดียวจากทั้งหมด 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีฐานทัพในต่างแดน เหตุผลแรกนั้นคือด้วยขนาดของประเทศที่เล็กทำให้พื้นที่การฝึกต่างๆนั้นมีความจำกัด ที่แรกนั้นคือ ฐานของฝูงบินที่ 130 ที่ตั้งอยู่ภายในฐานทัพอากาศ Base Pearce ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย, ฐานที่สองนั้นคือ ฐานของฝูงบินที่ 126 ซึ่งตั้งอยู่ในฐาน Oakey Army Aviation Centre ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์การบินทหารบกของกองทัพบกออสเตรเลีย ในภูมิภาคยุโรปสิงคโปร์มีฐานฝึกของตนในประเทศฝรั่งเศสโดยเป็นฐานสำหรับฝูงบินที่ 150 ซึ่งอยู่ภายในฐานทัพอากาศ Cazaux ของกองทัพอากาศฝรั่งเศสและฐานทัพอากาศอีกแห่งภายในฐานทัพอากาศอุดรของกองทัพอากาศไทย นอกจากนี้สิงคโปร์ยังมีฐานฝึกในประเทศบรูไนอีกด้วยโดยมีชื่อฐานว่า “ค่ายจาลาน อามาน” (Jalan Aman Camp) ซึ่งเป็นฐานที่กองทัพสิงคโปร์ใช้ฝึกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพและการรบในป่า นอกจากนี้คาดการณ์ว่าสิงคโปร์มีฐานทัพในประเทศไต้หวันอีกด้วยแต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก
"เครื่องบินฝึกแบบ M-346 ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ในฐานทัพอากาศ Cazaux ของกองทัพอากาศฝรั่งเศส"
